ในทางฟิสิกส์บอกเราเอาไว้ว่า หากสสารมีมวลมาก ๆ แล้วไซร้ มันก็ย่อมจะมีแรงโน้มถ่วงเกิดขึ้น … ไม่มาก ก็น้อย!!!
แรงโน้มถ่วงตรวจจับได้ยาก แต่มีรัศมีทำการที่กว้างไกล ดังนั้น สสารใดที่มีมวลน้อยกว่า ก็ย่อมจะถูกสสารที่มีมวลมากกว่าดึงดูดโน้มถ่วงเอาไว้ … เป็นธรรมดา!
ถ้าเราเปรียบคลื่นทั้งสามลูกที่ ALVIN TOFFLER อธิบายให้เราเข้าใจนั้นเป็นดั่งสสาร มันก็คงจะเป็นสสารที่มีมวลมาก มากจนกระทั่งสามารถเกิดแรงโน้มถ่วงให้มนุษย์ตัวเล็ก ๆ อย่างพวกเรา เกาะเกี่ยวอยู่กับคลื่นเหล่านั้นไว้ไม่หลุดไปได้ง่าย ๆ
และหากเราอยู่ใกล้คลื่นมากกว่าหนึ่งคลื่น ก็เป็นได้ว่าเราจะถูกคลื่นเหล่านั้นแย่งกันดึงดูดโน้มถ่วงเรา ให้เราเป๋ไปทางซ้ายทีขวาทีก็เป็นได้!!
ภาพข้างล่างผมวาดขึ้น เพื่อจะอธิบายภาวะของแรงโน้มถ่วงของคลื่นแต่ล่ะลูก ซึ่งกระทำต่อมนุษย์อย่างพวกเรา …
- เกษตรกรยังคงทำงานของพวกเขา โดยอาศัยแรงงานที่ตนเองมี บวกกับแรงงานจากสัตว์พาหนะที่พอจะหามาได้
- โรงงานยังคงตั้งหน้าตั้งตาผลิตสินค้าออกมาเป็นจำนวนมาก ๆ เพื่อลดต้นทุนในการผลิตของตนเอง
- คอมพิวเตอร์และเครือข่ายโทรคมนาคม ได้กลายเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนทุกกิจกรรมทางธุรกิจ โดยเน้นหนักไปที่ภาคการบริการเป็นหลัก
- โรงงานเริ่มเห็นว่าน่าจะเป็นการดี หากเอาวิถีแห่งการผลิตจำนวนมาก ๆ มาใช้กับเกษตรกรรม ทำให้มีศัพท์ใหม่สุดเท่ห์ที่เรียกว่า “อุตสาหกรรมเกษตร” เกิดขึ้น
- การผลิตแบบเฉพาะเจาะจงเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น คอมพิวเตอร์และเครือข่ายโทรคมนาคมจึงต้องถูกประยุกต์ใช้ในโรงงาน เพื่อทำให้มีอุตสาหกรรมเจ๋ง ๆ ไม่ว่าจะเป็น “อุตสาหกรรมสิ่งทอนาโน”, “อุตสาหกรรมอากาศยานไร้คนขับ” หรือ “อุตสาหกรรมหุ่นยนต์”
- เกษตรกรไม่ปลูกพืชบนดิน แต่หันไปปลูกพืชลอยฟ้าแทน อีกทั้งยังใช้คอมพิวเตอร์ ช่วยควบคุมการฉีดหมอก, รดน้ำ, ให้ปุ๋ย, ปรับความชื้น และปรับแสงแดด … ที่สำคัญ … ความรู้เหล่านี้ล้วนค้นหาได้จากอินเทอร์เน็ตซะด้วยสิ!!!
ทุกวันนี้ผมยังถูกเหนี่ยวนำโดยเส้นแรงเบอร์ (3) อยู่ ในขณะที่เพื่อนของผมบางคนถูกเหนี่ยวนำโดยเส้นแรงเบอร์ (2) และมีเพื่อนบางคนที่ก้าวหน้ากว่าใคร ๆ เพราะถูกเหนี่ยวนำโดยเส้นแรงเบอร์ (6)
แต่สูงสุด ฤ จะคืนสู่สามัญ ไม่ว่าจะเส้นแรงเบอร์ไหน หรือแรงโน้มถ่วงของคลื่นลูกใด ก็ย่อมมีการรุ่งเรืองหรือเสื่อมถอยอยู่ดี ดังนั้น ผมจึงหวังว่าถ้าเส้นแรงเบอร์ (6) เป็นเส้นแรงของอนาคต ก็น่าสนใจเหมือนกันที่เราจะใช้แรงโน้มถ่วงของเส้นแรงเบอร์ (3) เป็นตัวเหวี่ยงให้เราเข้าสู่วงโคจรของเส้นแรงเบอร์ (6) ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก (หากเทียบกับการเหวี่ยงโดยใช้เส้นแรงเบอร์อื่น ๆ ซึ่งไม่สามารถส่งแรงให้เราถึงจุดหมายได้โดยง่ายดายนัก)
โดยสรุปแล้ว เมื่อคลื่นใดมีแรงโน้มถ่วงน้อยลง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หากคลื่นอื่น ๆ จะมีแรงโน้มถ่วงกล้าแข็งขึ้น จนทำให้สนามแรงโน้มถ่วงเกิดการเปลี่ยนแปลง และนำมาซึ่งเส้นแรงโน้มถ่วงที่เปลี่ยนไปนั่นเอง
[tags]แรงโน้มถ่วง, เส้นแรง, คลื่นลูกที่หนึ่ง, คลื่นลูกที่สอง, คลื่นลูกที่สาม[/tags]
ผมโดนเส้นแรงเบอร์ (5) ดูดอยู่ครับ
ของผมโดนเบอร์ (3) แฮะ
แล้วภาคบันเทิงหรือท่องเที่ยวนี่เขานับเป็นเส้น 2 ด้วยรึป่าวคับ
ผมกำลังจะไปสู่ แรงโน้มถ่วง (6)
บางตอนของ The Third Wave พูดว่า
คลื่นลูกที่ 1 สามารถ กระโดดไปสู่ คลื่นลูกที่ 3 ได้โดยตรง
อ่านตอนนั้น ยังไม่เชื่อ เพราะคิดจาก เกษตรกรรม -> Info
แต่ตอนนี้ คิดจาก Info -> เกษตรกรรม
ประกอบกับ แนวโน้ม ที่ว่า
ต้นทุนทาง IT ต่ำลงเรื่อยๆ แต่ ราคาอาหาร กับสูงขึ้นเรื่อยๆ
ALVIN TOFFLER นี่ อัฉริยะจริงๆ มองข้าม shot ไป 30-40 ปี
อ๋า ผมลืมอธิบายเรื่องเส้นแรงเบอร์ 5 เลยคุณ tomatong
T-T ไม่รู้ดิคุณ figaro แต่อาจจะใช่ก็ได้นะ
โอ้ว ทันสมัยเดิ้นมาก ๆ เลยครับคุณ icy7 เหมือนเพื่อนผมคนนึงเด๊ะเลย 😛
อธิบายเข้าใจง่ายดีจังเลยครับ : )
ถ้าข้อ6. เกษตรกรเข้า alibaba จะเกิดอะไรขึ้นหนอ
อิอิ
ชอบบล็อคคุณจัง เอาเป็นว่าชอบอะไรคล้ายๆกัน จบมาก็แนวเดียวกัน อิอิ
เดี๋ยวว่างๆจะมาโม้ฟิสิกส์ จากสมติฐานของผมให้ฟัง