มวยไทยถือเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวในแนวตั้ง ดังนั้น มันจึงสามารถแสดงอานุภาพที่รุนแรงของมันได้ เมื่อผู้ใช้มวยไทยยืนอยู่บนพื้นดิน (ที่มั่นคง) แต่น่าเสียดายที่ผู้คิดค้นมวยไทยไม่ได้คิดว่า มนุษย์ยืนสองขาแบบพวกเราก็ย่อมมีวันล้มลงกับพื้นได้ ดังนั้น ผู้ใช้มวยไทยจึงไม่สามารถแสดงอานุภาพใด ๆ ได้เลย หากถูกคู่ต่อสู้กดล็อกหรือกดนอนลงกับพื้น!!!
ปัจจุบัน การจัดชกมวยไทยยังคงมีอยู่ มีพัฒนาการในวงจำกัดในระดับหนึ่ง โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานเดิม ๆ นั่นคือ การเป็นธุรกิจสีเทาเข้ม ๆ เพราะมีเรื่องของการใช้ความรุนแรง อิทธิพล และการพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง!!!
ผมเคยได้ดูบาสเกตบอล NBA อยู่บ่อย ๆ ผมชอบมาก ชอบตรงการเก็บสถิติของผู้เล่น ซึ่งเก็บได้ละเอียดเว่อร์ ๆ เช่น บอกได้ว่าผู้เล่นคนดังกล่าว เคยทำแต้มได้เท่าไหร่ เคยป้องกันการทำแต้มได้กี่ครั้ง หรือเคยส่งบอลให้ผู้เล่นอื่นทำแต้มได้กี่ครั้ง เป็นต้น
ผมจึงมองว่าการเก็บสถิติแบบนี้เป็นสีสัน เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มที่ดี ที่น่าจะนำมาประยุกต์ใช้กับมวยไทยได้!!!
งั้นเราต้องตั้งโจทย์ก่อนว่าถ้าเป็นมวยไทย เราอยากจะเก็บสถิติอะไรของนักมวยบ้าง เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มแก่ธุรกิจมวยไทย โดยสถิติดังกล่าวจะต้องสร้างอรรถประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์แก่โปรโมเตอร์เพื่อการจับคู่นักมวย ประโยชน์แก่ผู้ชมเพื่อการติดตามผลงาน ประโยชน์แก่นักพนันเพื่อการแทงพนัน หรือ ประโยชน์แก่ค่ายมวยเพื่อการวิเคราะห์นักมวยของตัวเองหรือคู่แข่ง เป็นต้น
โดยส่วนตัวผมเห็นว่า การเก็บสถิติของนักมวย ควรจะแบ่งออกเป็น 2 ระดับใหญ่ ๆ คือ
ระดับที่ 1 สถิติแบบกว้าง
ซึ่งเป็นสถิติปรกติที่มีการเก็บกันอยู่แล้ว เช่น จำนวนครั้งที่เคยขึ้นชก, นักมวยที่เคยชกด้วย, จำนวนครั้งที่เคยชนะ เสมอ แพ้ เป็นต้น
ระดับที่ 2 สถิติแบบละเอียด
อันนี้แหล่ะที่กำลังจะโม้ เพราะสถิติที่ควรจะเก็บไว้คือ จำนวนครั้งที่นักมวยเคยออกอาวุธใส่คู่ชก สำหรับการขึ้นชกในแต่ล่ะครั้ง แยกประเภทไปเลยว่าเป็น เตะซ้ายกี่ครั้ง เตะขวากี่ครั้ง เตะสูงหรือเตะต่ำ เตะแล้วเข้าเป้า เตะแล้ววืด หรือเตะแล้วโดนกันได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังต้องเก็บสถิติด้วยว่า นักมวยแต่ล่ะคนเคยโดนอาวุธไปกี่ดอก โดนแล้วหลบได้ กันได้ หรือโดนเต็ม ๆ เป็นต้น
–
ทีนี้ … ถ้าเราตัดเรื่องความไร้สาระในการจัดเก็บสถิติแบบละเอียดออกไป รวมทั้งอย่าเพิ่งไปคิดถึงต้นทุนที่จะเกิดขึ้นในการจัดเก็บฯ แล้วมาคิดว่ามันมีหนทางไหนบ้างที่จะจัดเก็บสถิติแบบละเอียดได้ เราก็จะพบว่ามีหนทางในการจัดเก็บได้อยู่ 2 ทาง อันได้แก่
1. จัดเก็บโดยใช้มนุษย์ โดยการวางตำแหน่งผู้จัดเก็บสถิติไว้ 4 ด้านรอบเวทีมวย แล้วให้ผู้จัดเก็บสถิติใช้สายตามองนักมวยที่กำลังชกอยู่บนเวที พร้อมทั้งใช้นิ้วมือกดปุ่มเพื่อบันทึกสถิติต่าง ๆ ของนักมวยลงในคอมพิวเตอร์
สำหรับวิธีนี้ถือว่าง่ายดี ได้ผลลัพท์ที่ต้องการโดยไม่สนใจวิธีการ แต่น่าเสียดาย ความผิดพลาดก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้!!!
2. จัดเก็บโดยใช้คอมพิวเตอร์ โดยการติดกล้องวีดีโอ 4 ตัวเล็งไปยังด้านทั้ง 4 ด้านของเวทีมวย แล้วใช้เทคโนโลยี Video Processing เพื่อจับภาพเคลื่อนไหวของนักมวยที่กำลังชกบนเวที พร้อมทั้งอ่านท่าทางต่าง ๆ ของนักมวยว่านักมวยกำลังทำอะไรอยู่ แล้วจึงจัดเก็บสถิติต่าง ๆ ลงในคอมพิวเตอร์ต่อไป
สำหรับวิธีนี้ถือว่าง่ายในการใช้งาน (หากทำได้) แต่ยากโคตร ๆ สำหรับคนที่ทำ Video Processing เลยล่ะ เพราะนั่นหมายความว่าระบบซอฟต์แวร์ดังกล่าว จะต้องรู้จักท่าทางของมวยไทยเป็นอย่างดี อีกทั้งยังต้องเข้าอกเข้าใจในทฤษฎีสรีรวิทยากล้ามเนื้อของมนุษย์ เผลอ ๆ อาจจะเดาได้ก่อนด้วยซ้ำ ว่านักมวยจะออกอาวุธอะไร!!!
โดยส่วนตัวมองว่า ถ้าสนใจในผลลัพท์เพื่อนำไปใช้งานต่อยอด เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับมวยไทยแล้วล่ะก็ เอาแบบ “จัดเก็บโดยมนุษย์” น่าจะง่ายกว่าจมเลยอ่ะ T-T
[tags]มวยไทย, ติดปีก[/tags]
ถ้าเก็บสถิติตามที่พี่ไท้ว่า เป็นแบบ Timeline นะ
ก็แทบจะวิเคราะห์ได้เลยว่า นักมวยคนนี้ มีพัฒนาการยังไงบ้าง
ซึ่งจะช่วยให้เอาไปวางแผนต่อได้อีก
สนุกล่ะงานนี้ เหอๆ
อาจจะต้องใช้สองอย่างรวมกันคือ
เอากล้องถ่ายกับคนมานั่งดูเทปแล้วค่อยลงคะแนน
แบบที่ 2 ถ้าทำได้จริง ผมว่า คงมีหุ่นยนต์ต่อยมวยกับมนุษย์ เกิดขึ้นมาก่อนแน่ๆ
แต่อย่างพี่ว่าน่ะแหละ Video Processing ต้อง ‘เทพ’ จริงๆ
เป็นผมถ้าจะเก็บสถิติ จะเอาสายรัดแบบ wristband ติดไว้ที่มือกับข้อเท้าของนักมวยแทนจะได้ดูว่าออกอาวุธท่าไหนบ้าง ^^
บางทีอาจจะได้สถิติใหม่เพิ่มด้วยเช่น พลังในการออกหมัด พลังในการเตะ อัตราการหายใจ การเต้นของหัวใจ ฯลฯ
ถูกต้องนะคร้าบคุณ AMp!!!
อันนี้ก็ดีแฮะคุณ tumit ช้าหน่อย แต่ชัวร์
ผมอ่านเกี่ยวกับ Video Processing แล้ว พบว่า มันมีงานวิจัยน้อยมาก ๆ เลยอ่ะคุณ Laoz
โอ้ว ช่างคิดอ่ะคุณ Bad อันนี้ผมคิดไม่ถึงแฮะ ^-^
ไม่เห็นจะยากอะไรนี่ครับ ก็เอา remote Wii ไปติดมันสักสี่ซ้าห้าตัวก็ทำได้แล้วน่ะครับ เพราะว่า มันจะได้ว่า มีการออกหมัดเกิดขึ้นถ้าหากว่ามีการออกหมัดแล้วมีการกระแทกเขย่าแบบหยุด นั่นก็แปลว่า มันมีการยิงหมัดแล้วโดนอย่างจังโก้ สำหรับ case การเตะก็น่าจะเหมือนๆกันครับ
สำหรับสถิติการปล่อยหมัดแล้วโดนหรือปล่อยอาวุธแล้วโดนนี่ก็น่าจะเป็นสถิติที่มีนัยแล้วน่ะครับ ไม่ต้องเอาแบบว่าหลบได้มากน้อยแค่ไหนหรอกครับ เพราะว่าถ้าหากว่าโดนจุดสำคัญยังไงซะมันก็สงบน๊อคและเอ๋อไปน่ะครับ
ดีมากๆครับ สร้างสรรค์ดีมากๆครับ ขอบคุณครับ
ทหารไทยในอดีต ใช้ดาบ หอก กระบี่ และ มวยต่อสู้ ปกป้องประเทศไทย แล้วถ้าอาวุธหลุดมือ ก็ใช้มวย แล้วพม่ามีกี่คน พื้นดินก็ทุ่งนา ดินหินทั้งนั้น ย้อมมีกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน มวยไทยโบราณมี จับ หัก ทุ่ม รัด กด แต่ที่เราไม่ได้เห็น เพราะกำหนด ล้มห้ามซ้ำ จนวิชา ทุ่ม รัด กัด กด จับ หัก ค่อยๆเลือนหายไปคับ รับรองคับ มวยไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกคับ ภูมิใจเถอะคับ ที่เราเป็นไทยอยู่ได้เพราะบรรพบุรุษของเรา เอาเลือด เอาเนื้อ เอาความลำบากและเสียสละเข้าแลกไว้คับ