บทความนี้เคยเขียนไว้ใน Facebook ของตัวเอง เอามาเรียบเรียงใหม่ แล้วใส่ในบล็อกนี้ เพราะเสียดาย อุตส่าห์นั่งพิมพ์ไปตั้งเยอะ
เริ่มเลยแล้วกัน …
ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าสหรัฐอเมริกาเป็นที่หนึ่งในแทบทุกด้าน โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ตรงนี้สหรัฐอเมริกานำโด่งแทบทุกชาติ
อำนาจของสหรัฐอเมริกากำลังเสื่อม อันเกิดจากสาเหตุที่หากให้อธิบายเป็นภาษาชาวบ้านแบบง่าย ๆ ก็คือ ถังแตก หนี้สินล้นพ้นตัว เพื่อนฝูงทอดทิ้ง สร้างศัตรูรอบด้าน บ้าสงคราม และ ลำเอียงเข้าข้างแต่ยิว
สหรัฐอเมริกามีรายรับน้อยกว่ารายจ่าย ทำให้ต้องกู้เงินมาใช้สอย พิสูจน์ได้จากการที่ในแต่ล่ะปี รัฐสภาสหรัฐจำเป็นต้องอนุมัติเพดานหนี้ของประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อกู้หนี้ใหม่มาใช้จ่าย และไม่มีทีท่าว่าจะใช้หนี้เก่าคืนได้แต่อย่างไร นำมาซึ่งสภาวะถังแตกและหนี้สินล้นพ้นตัว ที่สำคัญหนี้สินที่ติดค้าง มีส่วนน้อยเท่านั้นที่ติดหนี้ต่างประเทศ ส่วนใหญ่ติดหนี้คนในชาติตัวเอง ผ่านกองทุนต่าง ๆ มูลค่ามากมายมหาศาล
นอกจากนี้ ทั้ง ๆ ที่ถังแตกมีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้ว สหรัฐยังสร้างศัตรูรอบด้าน บนพื้นฐานของการลำเอียงเข้าข้างยิว โดยการใช้จ่ายเพื่อค้าสงครามให้ยิวมีความได้เปรียบในเวทีโลก นำมาซึ่งการถังแตกซ้ำซ้อน จนกระทั่งไม่มีเงินใช้จ่าย
เมื่อสหรัฐมีเบี้ยน้อยหอยน้อย แต่อยากทำสงคราม ก็จะต้องลากเอาพรรคพวกเพื่อนฝูงเข้ามาร่วมทำสงครามด้วย ซึ่งพรรคพวกก็หวังว่าหากเข้าร่วมสงครามด้วยแล้ว การค้าจะเป็นไปได้ด้วยดี เพราะสหรัฐอเมริกาคือ “ผู้ซื้อ” รายใหญ่ที่สุดของโลก
แต่เรื่องจริงไม่ใช่แบบนั้น สหรัฐถังแตกแล้ว ดังนั้น เหตุการณ์ที่ตามมาคือรัฐบาลสหรัฐสั่งตั้งกำแพงภาษีในสินค้านำเข้าต่าง ๆ เพื่อหวังผลสองเด้ง เด้งแรกจะได้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากภาษี และเด้งสองคือลดการนำเข้าจะได้มีรายจ่ายน้อยลง
ผลที่เกิดขึ้นคือ พรรคพวกพันธมิตรของสหรัฐก่นด่ากันเป็นแถว ถึงขนาดยืนค้ำหัวคุยกันเลยทีเดียว ว่าตกลงสหรัฐจะเอายังไง!!!
จริง ๆ แล้วสหรัฐสามารถพิมพ์ดอลลาร์ออกมาได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องมีทองคำค้ำประกันก็ได้ เพราะมีแสนยานุภาพทางทหารและบ่อน้ำมันที่ยึดเอาไว้ค้ำประกันอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์มันกำลังเปลี่ยนไป เพราะหากตัวแปรใดตัวแปรหนึ่งเสียไป ไม่ว่าจะเป็น …
- สหรัฐไม่มีเงินมาสนับสนุนแสนยานุภาพทางทหารเพราะถังแตก
- ไม่มีใครค้าขายกันด้วยดอลลาร์แล้ว จนทำให้ดอลลาร์หมดค่า
- สหรัฐเสียอำนาจในการคุมบ่อน้ำมันไปให้ชาติอื่น
- ไม่มีใครใช้น้ำมันและเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่แทน
ตัวแปรเหล่านี้หากเสียหายไป ย่อมทำให้การพิมพ์ดอลลาร์อย่างไม่จำกัดของสหรัฐ สะดุดหยุดลงอย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อรัฐบาลง่อนแง่น ก็จะส่งผลต่อเนื่องไปจนถึงบริษัทเอกชนต่าง ๆ เป็นโดมิโน่
เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่มีเงินร่ำรวย ก็ล้วนสามารถพัฒนาอะไร ๆ ให้ก้าวหน้าได้ โดยการใช้เงินที่มีเพื่ออุดหนุนอุตสาหกรรมและการวิจัยต่าง ๆ ให้พัฒนารุดหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก
แต่สำหรับสหรัฐใน พ.ศ. นี้ การที่ตกอยู่ในสภาวะถังแตก มีหนี้สินล้นพ้นตัว ย่อมมีโอกาสทำให้ความเป็นผู้นำในหลาย ๆ ด้านถูกแทนที่ได้
ซึ่งในขณะที่ความเป็นผู้นำในหลาย ๆ ด้านกำลังถูกแทนที่ แต่ในหลาย ๆ ด้านก็ยังไม่ถูกแทนที่ เราลองมาไล่เรียงกันดีกว่าว่า ด้านใดบ้างที่สหรัฐยังคงเป็นผู้นำอยู่ และด้านใดบ้างที่ถูกแทนที่ไปแล้ว หรือมีโอกาสถูกแทนที่ได้ในอนาคต
1. ด้านแสนยานุภาพทางทหาร ถ้าไม่นับนิวเคลียร์ ถือได้ว่ากองทัพของสหรัฐทั้งใหญ่และไฮเทคที่สุด แต่ถ้านับอาวุธนิวเคลียร์ รัสเซียเขาบอกเลยว่า แสนยานุภาพทางทหารของเขาเหนือกว่า
2. ด้านการเป็นโรงงานผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ตอนนี้จีนกลายเป็นโรงงานของโลกแทนที่สหรัฐไปแล้ว
3. ด้านการเป็นเจ้าสัวของโลก ตอนนี้จีนกลายเป็นเจ้าสัวของโลกแทนที่สหรัฐไปแล้ว จีนมีธนาคารและกองทุนระดับโลกแล้ว จีนส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคมากที่สุดในโลกแล้ว จีนกลายเป็นเจ้าหนี้ใหญ่ของโลกไปแล้ว
4. ด้านการศึกษา สหรัฐยังคงเป็นผู้นำอยู่ มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกยังอยู่ที่สหรัฐ
5. ด้านการวิจัยพัฒนา สหรัฐยังคงครองความเป็นเจ้า ด้านจำนวนของเปเปอร์งานวิจัยในระดับดี และในด้านจำนวนของสิทธิบัตรอยู่ โดยมีจีนหายใจรดต้นคอมาติด ๆ
6. ด้านนิติบุคคลทางธุรกิจ สหรัฐมีบริษัทที่มีชื่อเสียง มีแบรนด์ดังระดับโลก มากมายหลายบริษัท โดยเฉพาะบริษัทไฮเทค ส่วนใหญ่มีสัญชาติสหรัฐทั้งนั้น ซึ่งตรงจุดนี้ ชาติอื่น ๆ ยังไล่กวดตามยากอยู่ มีเพียงจีนเท่านั้นที่กำลังไล่ตามอย่างไม่ลดละ
7. ด้านการบุกเบิกสำรวจอวกาศ สหรัฐมีความก้าวหน้าในด้านการส่งยานอวกาศ เพื่อโคจรระหว่างดาวเคราะห์มากที่สุดในโลก ยานอวกาศส่วนใหญ่ที่ลอยไปลอยมาในระบบสุริยะ ล้วนเป็นของสหรัฐทั้งนั้น ส่วนด้านรัสเซีย ตั้งแต่โซเวียตล่มสลาย ก็หันมาเอาดีด้านการโคจรรอบโลกอย่างเดียว ซึ่งจีนก็ไม่ต่างจากรัสเซียเหมือนกัน
8. ด้านกีฬา โอลิมปิกทีไร สหรัฐก็ได้เหรียญมากที่สุดอยู่ดี โดยเฉพาะกรีฑาลู่ และ ว่ายน้ำ ในขณะที่จีนตั้งโรงเรียนกีฬาขึ้นมา ก็ยังตามเป็นที่สองอยู่
9. ด้านวัฒนธรรม สหรัฐยังคงเป็นผู้นำในด้านการผลิตความบันเทิงที่มีคุณภาพ (แต่อิงผลประโยชน์การเมือง) อยู่ ไม่ว่าจะเป็นภาพยนต์ เพลง ซีรีย์ รายการทีวี แฟชั่น โดยเฉพาะภาพยนต์ถือว่าเป็นกองหน้าที่แข็งแกร่งที่สุดของสหรัฐในด้านนี้เลยก็ว่าได้
10. ด้านสื่อมวลชน หลายประเทศเริ่มรู้แล้วว่าสหรัฐอเมริกาใช้สื่อมวลชนของตัวเอง เพื่อเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น ทำให้สื่อมวลชนของสหรัฐไม่ได้รับความเชื่อถือจากประชาชนในหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะประชาชนในประเทศมหาอำนาจอื่น นอกจากนี้ประเทศมหาอำนาจอื่น ต่างก็พัฒนาสื่อมวลชนของตนเองขึ้นมาแข่งขัน เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงเปรียบเทียบ ได้แก่ สำนักข่าวอัลจาซีร่าของกาตาร์ สำนักข่าวซินหัวของจีน และสำนักข่าวอาร์ทีของรัสเซีย
เชื่อว่าด้วยภาวะถังแตกของสหรัฐในตอนนี้ จะทำให้สหรัฐไม่สามารถอุดหนุนอุตสาหกรรมในหลาย ๆ ด้านได้เหมือนก่อน จนทำให้เสียความเป็นผู้นำในแต่ล่ะด้านไป และสุดท้ายเมื่อสหรัฐต้องรีดภาษีจากประชาชนและนิติบุคคลมากขึ้น ก็ย่อมต้องทำให้ประชาชนและนิติบุคคลต่าง ๆ หนีออกไปจากสหรัฐโดยปริยาย ซึ่งทำให้ความสามารถในอีกหลาย ๆ ด้านเสียความเป็นผู้นำไป
ในไม่ช้า สหรัฐอเมริกาจะถูกทำให้ถอยหลังไป กลายเป็นมหาอำนาจระดับเดียวกับ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี แคนาดา และ ออสเตรเลีย แทน และต้องปล่อยให้ชาติยักษ์ใหญ่อื่น ก้าวขึ้นมาเป็นอภิมหาอำนาจแทนในที่สุด