คนเก่งทางคอมพิวเตอร์ควรได้รับการต่อยอด แต่เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องจึงต้องออกมาทำงานหาเลี้ยงตัว ออกมาเป็นคนทำงานให้กับระบบคนอื่น
น้อยคนนักที่จะได้จบออกมาแล้วทำงานให้ระบบของตนเอง หรือน้อยคนนักที่จะได้สวมเข้ากับระบบที่มีอยู่เดิม ซึ่งเป็นระบบที่มีคนมากมายทำงานให้กับระบบนั้น ๆ อยู่ก่อนแล้ว
การที่ต้องทำงานหาเลี้ยงตัว จึงเป็นตัวทำละลายความสามารถของคน ๆ นั้นอย่างดี เพราะงานกับความสามารถที่มีอาจจะขัดแย้งกัน ไม่ได้เกื้อหนุนกัน สุดท้ายความสามารถที่มีจึงโดนงานที่ต้องทำ ละลายหายไป
บางคนอาจจะใช้เวลาที่เหลือจากการทำงาน เพื่อฝึกฝนความสามารถตั้งต้นที่ตนเองถนัด แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็จะพบว่างานประจำ ได้พรากเอาเวลาซึ่งใช้เพื่อฝึกฝนความสามารถตั้งต้น ทีล่ะเล็ก ทีล่ะน้อย
เราจะพบว่ามีแรงงานคอมพิวเตอร์หลายคนประสบปัญหา เพราะงานที่รับสมัครนั้น น้อยนักจะสอดคล้องกับความสามารถที่ตนเองมี
งานซึ่งทีมงานผมทำงานอยู่เป็นงาน ERP ซึ่งเน้นเกี่ยวกับระบบการเงิน, ระบบบัญชี, ระบบพัสดุ และระบบทรัพยากรบุคคลเป็นหลัก แต่ผมกลับพบว่าคนในทีมกลับแข็งแกร่งในด้านอื่นมาก่อน การจะหักดิบให้มาเก่งด้าน ERP ในเวลาอันรวดเร็วจึงเป็นเรื่องไม่ง่ายนัก
- บางคนจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์มา มีทักษะอย่างสูงทางด้านอิเลกทรอนิกส์, Embedded System และ High Performance Tunning
- บางคนจบวิทยาการคอมพิวเตอร์มา มีทักษะทางด้าน Natural Language Processing, Optical Characteristic Recognition
- บางคนจบคอมพิวเตอร์จากเมืองนอก เรียนมาทางด้าน E-Commerce โดยตรง
- ผมเองจบวุฒิพื้น ๆ มา รู้ก็แต่ระบบ CRM
ทุกคนบ่นเป็นเสียงเดียวกัน ผมเองก็บ่น บ่นว่าไม่รู้เรื่อง ERP เลยว่ะ รู้สึกเหมือนตัวเองโง๊โง่ ไม่รู้อะไรเลย
เหมือนฝึกเพลงกระบี่มาแทบเป็นแทบตาย จนได้เคล็ดวิชาเพลงกระบี่ขั้นสุดยอดมา แต่พอสมัครเข้ากองทัพเพื่อไปรบ ดันเอาปืน HK33 มายัดให้ แล้วก็ส่งเข้าสนามรบทันที โอย แล้วจะใช้ถนัดในเร็ววันได้ไงเนี่ย?
ทีนี้วิธีแก้ มาดูวิธีแก้ปัญหานี้ดีกว่า มีอยู่สามวิธีเท่านั้น
- ตั้งกิจการของตัวเองเลย ระบบของตัวเอง แล้วก็ทำอย่างที่ตัวเองถนัด เหอ ๆ สายป่านต้องยาวหน่อยนะ
- หางานที่ตรงกับทักษะของตัวเองเท่านั้น อย่างอื่นไม่เอาเด็ดขาด แล้วก็ต่อยอดความสามารถเฉพาะด้านไปเรื่อย ๆ หรือ
- ปลงซะ แล้วคิดซะว่ามันเป็นงานคอมพิวเตอร์เหมือนกัน ทำแล้วได้เงิน จะได้เอามาซื้ออาหาร, ส่งบ้าน, ส่งรถ, ผ่อนบัตรเครดิต, เลี้ยงสาว, ไปเที่ยวสนุกสนาน ฯลฯ
พออายุค่อย ๆ มากขึ้น ความคิดมันจะค่อย ๆ เปลี่ยนครับ เชื่อผมดิ อิ อิ 😛
[tags]สารละลาย,การจัดการ,คอมพิวเตอร์[/tags]
พี่ไท้เขียนแต่หละบทความดีมากเลยครับ
อ่านแล้วเห็นภาพเลย
ง่ะ ตอนนี้พยายามเลือกงานให้ตรงกับตัวเองสุดแล้วนะเนี๊ยะ ก็ได้งานเขียนโปรแกรมจาวามา ตรงกับข้อสองสินะ แต่อยากทำแบบที่หนึ่งอ่ะ ^ ^ แต่สงสัยจะไปไม่รอด
พี่ไท้ครับ ถ้าผมอยากจะเรียนรู้ ERP เนี่ย ต้องเริ่มจากอะไรครับ เอ่อ อย่างน้อยก็เอกสารหรือไม่ก็หนังสือละครับ แล้วที่พี่ไท้ทำอยู่เนี่ยเป็นระบบแซ่บหรือเปล่าครับ 😀 ผมฝันอยากจะทำระบบนั้นมานานแล้ว แต่คนจ้างน้อย เวลาไม่มี (หาเลี้ยงปากท้องอยู่) และก็เข้าใจยากด้วย
petezzz — คนเขียนอายุไม่ใช่น้อยๆ ประสบการณ์ก็เยอะตามแหละครับ 😛
วิธีแก้ปัญหา 3 วิธี ทำพร้อมๆกันก็ได้นะครับ
1. ทำงานเดิมเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
2. มองหางานใหม่ที่ตรงกับทักษะตัวเองไปพร้อมกันด้วย
3. เรื่องตั้งกิจการของตัวเอง ก็รับเป็น freelance ไปก็ได้ ทำแล้วมีความสุข
หากไปได้ดี ก็ค่อยขยับขยายต่อไป
เห็นด้วย อย่างแรงเร้ย
การได้ทำงานตรงตามสาขาที่ตัวเองเรียนมาอย่างเต็มที่แถมได้ตังเต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมาะสมกับสภาพเงินเฟ้อ (สำหรับประเทศไทย) นับว่าเป็นโชค ได้ละลายอีโก้ (ไอ้โก้ไม่ได้เหรอ) อีกด้วย … บางทีเราก็ต้องเลือกเอาอย่างพี่ไท้ว่า จะเอาเงิน เอากล่อง หรือเอาทั้งสองอย่าง มีราคาที่ต้องจ่ายแตกต่างกันทั้งนั้น
เนี่ยวันนี้พี่ผมก็บ่นเรื่องแนวๆนี้ เรื่อง ไม่ได้ทำงานตามสายที่เรียนมา
ต้องเข้าไปทำงานที่เขาทำ ERP ครับคุณ Crucifier ต้องแบบนี้เท่านั้นครับ ลงภาคสนามเลย ถึงจะมีความรู้, ความเข้าใจ และประสบการณ์ ผมพิสูจน์ด้วยตนเองแล้วว่า อ่านอย่างเดียว ก็ได้แต่ทฤษฎีครับ ลงปฏิบัติอะไรไม่ได้เลย
เรื่องนี้ผมเองก็พอจะเข้าใจอยู่นะครับ ตอนจบม.6 ผมในสายตาของคนทั่วไปคือโคตรจะเก่ง CG เกินหน้าเกินตาระดับเด็กม.ปลายด้วยกันไประดับนึงอยู่ ขนาดที่ผมประกวดออกแบบหน้าปกระดับมหาวิยาลัย ผมชนะคนที่เรียนสายตรงมาได้ ทั้งๆที่ผมอยู่ปี 1 (อ่ะ จริงๆคร้าบ ไม่ได้โม้นะครับ)
แต่หลังจากเรียนหมอไป…วันๆเจอแต่เชื้อโรค เจอแต่กล้ามเนื้อ เจอแต่สารเคมีอะไรไม่รู้ – -”
ปัจจุบันให้ผมออกแบบงานซักชิ้นแทบจะทำไม่เป็นแล้วครับ ถามว่าลืมมั้ยว่าอะไรอยู่ตรงไหนมันก็ไม่ลืมหรอกครับเพราะมันเป็น long term memory ไปแล้ว แต่แบบ เซนส์ที่เคยมีมันไปหมดแล้วน่ะครับ 55+ เวลาจะทำที โอ้ย ขี้เกียจ หมดไฟ กลายเป็นอย่างงี้ได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกันครับ สารละลายมันแอบละลายช้าๆโดยที่เราไม่รู้ตัวจริงๆ
จริงๆก็ไม่มีอะไรหรอกครับ แวะมาเยี่ยมพี่ไท้เฉยๆครับ แหะ ๆ เห็นไอ้ Mybloglog ด้านข้างไม่มีหน้าหล่อๆผมโผล่มา ไม่ใช่ว่าผมเลิกเป็นแฟนคลับเวบพี่ไท้แล้วนะคร้าบ 555+ ยังตามอ่านอยู่ทุกตอนแน่นอนครับ (ผ่าน Feed) แหะๆ เลยไม่ได้เข้ามาในเวบเลยครับ (ถ้าอยากให้คนอ่าน feed มาเข้าเวบลองใช้วิธีของพี่ Jedineko ดูสิครับ ที่ใน Feed มันดันแสดงเรื่องแค่ครึ่งเดียว – -” ต้องตามมาอ่านในเวบเหมือนเดิม)
ผมกำหนด Feed แบบคุณ Catkun เขาไม่เป็นอ่ะ สงสัยคุณ Catkun คงมีการเขียนโปรแกรมเพื่อกำหนดอะไรบางอย่าง ทำให้ Feed ของคุณ Catkun สามารถแสดงผลได้อย่างใจนึกครับ T-T