เมื่อวานนี้ผมไปโปรโมตเว๊ปตัวเองใน http://www.pantip.com/ ห้อง developer ครับ ได้รับผลตอบรับดีทีเดียวครับ สงสัยคงจะไม่เข้าไปพักใหญ่ เพราะมืออาชีพอยู่กันเยอะเหลือเกิน 🙂
เจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วทำให้ผมเห็นว่า คนที่ตอบกระทู้ผมน่าจะมีความรู้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์จึงรู้สึกไม่พอใจ แต่ก็เชื่อว่าคน ๆ นี้ขาดองค์ความรู้โดยรวมอื่น ๆ ครับ โดยสิ่งที่คน ๆ นี้ขาดไปน่าจะเป็น
- ขาดความรู้ในเชิงระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากการที่เว๊ป pantip บันทึก IP ของเครื่องเอาไว้ แสดงว่าจงใจเก็บหลักฐานเพื่อให้ติดตามได้ และการติดตามได้ก็หมายถึงการต้องมีความรู้ในระบบเครือข่ายและฐานข้อมูล
- ขาดความรู้ในกฎหมาย เพราะประมวลกฎหมายอาญา อนุโลมให้แจ้งความได้ในข้อหา “หมิ่นประมาท”
- ขาดความรู้ในทฤษฎีเกมส์ซึ่งเป็นทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ เพราะทฤษฎีเกมส์จะกล่าวถึงการเลือกผลตอบแทนสูงสุดให้กับตนเอง และผมอาจเลือกผลตอบแทนสูงสุดโดยการ “แจ้งความ”
- ขาดความรู้ในเชิงเศรษฐศาสตร์ เพราะคนทีทำแบบนี้ไม่ได้คำนวณต้นทุนที่ต้องเสียจากข้อ 1 – ข้อ 4 ครับ
โลกอินเตอร์เน็ตไม่ใช่โลกเสรีอีกแล้วครับ มันถูกติดตามได้ ถูกปิดกั้นได้ ทุกวันนี้ก็เห็นกันอยู่ เราคงจะหลบในบ้าน แล้วแอบตัวตนไม่ได้อีกแล้วครับ โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว
ผมเองก็เคยมีประสบการณ์แบบนี้เหมือนกัน น้องชายผมเองแหล่ะ เขียนตอบแบบนี้ใส่กระทู้ครับ ตำรวจใช้เวลาแกะรอยราว 1 เดือน จาก IP ทีทิ้งเอาไว้ จนมาพบว่าเป็นเบอร์อินเตอร์เน็ตของผม จากนั้นตำรวจก็แจ้งต่อผู้บังคับบัญชาผมครับ
ผู้บังคับบัญชาเรียกตัวผมเข้าพบ เพื่อแจ้งเรื่องซวยนี้ให้ทราบ ท่านแจ้งว่าผมเป็นผู้ต้องสงสัยแล้ว เพราะเจ้าทุกข์ต้องการแจ้งความข้อหา “หมิ่นประมาท โดยการโฆษณา” ซึ่งมันมีโทษจำคุก 3 ปี และปรับไม่เกิน 300,000 บาท
ผมเอ๋อไปเลย เพราะไม่ได้เป็นคนทำ สุดท้ายผมต้องใช้ทักษะทางคอมพิวเตอร์ของผม แกะรอยย้อนกลับไปว่าเจ้าทุกข์เป็นใคร เพราะผู้บังคับบัญชาไม่ได้บอกอะไรมากกว่านี้ ท่านแค่บอกว่า อนุญาติให้ใช้ทนายความขององค์กรได้
เมื่อติดต่อได้ ก็ไปตกลงกันที่ สน.บุคคโล กรุงเทพฯ เจ้าทุกข์ยกกันมาทั้งตระกูล ผมเสนอเงินเพื่อยอมความก็ไม่ยอม สุดท้าย ผมกับน้องชายจึงต้องโพสต์ขอขมาลงเว๊ปถึง 10 เว๊ป เป็นเวลาติดต่อกันถึง 15 วัน!!! เขาถึงถอนแจ้งความ
เห็นมั้ยครับ ว่าเรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ มันก็กลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ เด็กหนอเด็ก
ใจเย็นครับพี่
ผมเป็นคนหนึ่งละที่ได้เข้ามาอ่าน blog ของพี่่ (ขออนุญาตเรียกพี่นะครับ) จาะการประชาสัมพันธ์ของพี่ที่เว็บ pantip.com ตังแต่วันแรกๆ ที่พี่โพสไว้ จนทุกวันนี้ผมก็ยังแวะเวียนเข้ามาทุกวัน
สิ่งแรกที่ได้เขามาคือ blog ของพี่ให้ความรู้และทัศนคติของโปรแกรมเมอร์ที่ผ่านงานมานาน ซึ่งสิ่งพวกนี้ผมถือว่ามันเป็นประสบการณ์ทางอ้อมของผม ซึ่งได้จากประสบการณ์ทางตรงของพี่ ก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่ทำต่อไปครับ อย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งละที่ชื่นชมในการกระทำของพี่
แต่เหตุที่พี่ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดีอย่างนี้ก็คงเนื่องจากว่า พี่โพสโปรโมร blog ของพี่ถี่เกินไปหรือเปล่าครับ บางท่านเลยรู้สึกรำคราญ
พี่ลองโปรโมรโดยการเข้าไปช่วยตอบคำถาม ตามที่พี่พอจะช่่วยเหลือได้ และเมื่อตอบจบก็ใช้วิธีใส่ url ทิ้งท้ายไว้ ผมว่าคงพอจะช่วยได้นะครับ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
chato
แค่เล่าให้อ่านเฉย ๆ ยังไม่ได้คิดจะทำอะไรใครซักหน่อย
อย่าไปใส่ใจครับ ความคิดที่ดีๆที่จะแสดงออกทั้งการถ่ายทอดความรู้, แสดงความคิดเห็น ช่วยกันติช่วยกันต่อออกมาให้กับสังคม software ของไทยนั้นมีน้อยคนนักที่จะกล้าแสดงออกมา เพราะถ้าเราแสดงออกมาแล้วย่อมมีความคิดเห็นเป็น 3 ฝ่าย. เสมอคือ 1. ไม่เห็นด้วย 2. เฉยๆ และ 3. เห็นด้วย บางคนก็เก่งแต่ปากไม่เคยออกมาแสดงความคิดเห็นก็ได้แต่เห่า (เพราะเห็นคนที่สูงกว่าตน(เก่งกว่า)) บอกตรงๆครับความรู้น่ะหาอ่าน หาทำกันได้ แต่ประสบการณ์นั้น หาได้ยาก เพราะแต่ล่ะคนย่อมมีประสบการณ์ที่แตกต่างกันไป ทำให้เราเห็นมุมมองของโลกกว้างขึ้นอีกเยอะ ผมชื่นชอบ blog ของคุณ”พี่ไท้” น่ะเพราะมันทำให้ผมเห็นอีกมุมของส่วนที่ผมอยากจะไปให้ถึงจุดนั้นจริงๆ
เป็นกำลังใจให้ครับ
ป.ล. ถ้า blog ผมพร้อม ว่างๆ รบกวนคุณ”พี่ไท้” ไป comment บ้างน่ะครับ
ครับ บล็อกเสร็จแล้วบอกด้วยครับ เพราะจะได้สร้างเครือข่ายบล็อกของคนพัฒนาซอฟต์แวร์กัน