อาวุธประจำกายแห่งอนาคต

พลเรือนส่วนใหญ่ไม่ค่อยกล้าใช้อาวุธครับ เพราะใช้แล้วมันมีปัญหาตามมาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นยั้งมือไม่อยู่ แทนที่จะแค่หยุดคนร้าย กลับกลายเป็นทำให้คนร้ายตาย จนต้องเดือดร้อนขึ้นโรงขึ้นศาล เพราะถูกฟ้องคดีฆ่าคนตายโดยเจตนา

หรือไม่ก็กลัวแม่นไม่พอ นอกจากไม่สามารถจู่โจมให้เข้าเป้า จนไม่สามารถหยุดคนร้ายได้แล้ว ยังทำให้คนร้ายโมโหแล้วทำร้ายเราหนักกว่าเดิมอีก

ไม่ว่าจะเป็น มีด, ดาบ, ดิ้ว หรือ ปืน ก็ล้วนมีข้อดีข้อเสียในการใช้ทั้งนั้น!!

แต่ที่สหรัฐอเมริกาเขามีอาวุธประจำกายแบบใหม่ครับ ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมใช้มาก เนื่องจากมันอุดข้อเสียหลาย ๆ อย่างของอาวุธที่กล่าวในข้างต้น และที่สำคัญมันถูกกฎหมายด้วยในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา!!!

อาวุธดังกล่าวคือ Taser C2 ในภาพด้านซ้ายครับ หรือถ้าให้เรียกเป็นภาษาไทยก็คือ “เครื่องยิงลูกดอกช็อตไฟฟ้าแรงดันสูง”

มันมีคุณสมบัติิเหมือนกับเครื่องช็อตไฟฟ้าทั่วไปทุกประการ แต่สิ่งที่เหนือกว่าก็คือมันมีระยะยิงอยู่ที่ 4 เมตร แถมยิงแม่นอีกต่างหาก อีกทั้งยังสามารถปล่อยแรงดันไฟฟ้าได้ที่ 400,000 โวลต์ กระแสไฟฟ้าที่ 1/8 แอมแปร์

ด้วยแรงดันไฟฟ้าที่สูง แต่กระแสไฟฟ้าที่ต่ำ จึงทำให้ผู้ที่ถูกยิงใส่กลายเป็นอัมพาตล้มลงในทันที เนื่องจากแรงดันไฟฟ้าเข้าไปก่อกวนการทำงานของกล้ามเนื้อ จนกล้ามเนื้อหยุดการทำงานไปพักใหญ่ ๆ

ผู้ที่ถูกยิงจะไม่บาดเจ็บ, พิการ หรือเสียชีวิต เพียงแต่ถูกหยุดให้กองอยู่กับพื้นเท่านั้น ทำให้พลเรือนสามารถป้องกันตัวเองได้โดยไม่เป็นการทำเกินกว่าเหตุ อีกทั้งยังมีเวลาเพียงพอที่จะแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ตำรวจมาช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที

บริษัท Taser International จำกัด เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ตัวนี้ครับ บริษัทนี้ทำแต่อาวุธประจำกายประเภทช็อตไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเครื่องช็อตไฟฟ้าแบบระยะประชิด, กระบองไฟฟ้า, เครื่องยิงลูกดอกช็อตไฟฟ้า หรือแม้แต่กระสุนปืนลูกซองแบบช็อตไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งอาวุธเหล่านี้ล้วนเป็นอาวุธประจำกายแบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งสิ้น

[youtube:http://www.youtube.com/watch?v=CK2OsttO614]

สิ่งที่ผมสนใจเกี่ยวกับมันก็คือ นอกจากมันจะเป็นเครื่องยิงลูกดอกช็อตไฟฟ้าแรงสูงแล้ว มันยังเป็นเครื่องเล่น MP3 ด้วย (เอาเข้าไป) อีกทั้งมันยังมีช่อง RJ เพื่อให้ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ สำหรับดาวน์โหลดประวัติการยิงได้อีกด้วยนะเออ และที่ร้ายไปกว่านั้นก็คือ การที่เราจะใช้ Taser C2 ได้นั้น เราต้องเข้าไปยังเว็บไซต์ของเขาเพื่อขอ Activate Code มาก่อน จากนั้นจึงค่อยเอา Activate Code ที่ได้มาเปิดใช้ Taser C2 อีกทีนึง

ทำอย่างกับการลงทะเบียนใช้งานซอฟต์แวร์แน่ะ!!!

บริษัทนี้เขายังไม่หยุดเพียงแค่นี้นะครับ เพราะข้อจำกัดของ Taser C2 ก็คือถึงจะยิงลูกดอกได้ไกลตั้ง 4 เมตร แต่ลูกดอกก็ยังต้องต่อกับสายไฟเส้นบาง ๆ ติดกับตัวปืนอยู่ดี ซึ่งแบบนี้ก็ยังเรียกว่าเป็นระบบแบบมีสายอยู่ ดังนั้นสิ่งที่บริษัทนี้จะวิจัยต่อก็คือ การทำให้การช็อตไฟฟ้าไม่จำเป็นจะต้องใช้สายเหนี่ยวนำอีกต่อไป เป็นแบบไร้สายนั่นแหล่ะ

โดยจะใช้เทคโนโลยี Electrolaser เข้ามาช่วยในการนี้ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวถ้าวิเคราะห์ลงไปในรายละเอียดก็สรุปได้ว่า มันคือการสร้างเครื่องยิงสายฟ้าผ่าขนาดพกพานั่นเอง!!!

สรุปแล้วผมคิดว่าต่อไปแม้แต่อาวุธประจำกาย ก็คงจะต้องข้องแวะและเกี่ยวข้องกับอิเลกทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์มากยิ่งขึ้นเป็นแน่ ก็ไม่แน่นะครับ ในอนาคตเราอาจจะพบว่าโทรศัพท์มือถือของเรา นอกจากจะเข้าอินเตอร์เน็ต, ฟังเพลง, ถ่ายรูป, ถ่ายวีดีโอได้แล้ว มันอาจจะสามารถยิงสายฟ้าผ่าไปยังผู้ร้ายที่จะเข้ามาทำร้ายเราก็ได้

ใครจะรู้???

หลีกเลี่ยง ดีกว่า ต่อสู้

ต่อสู้ ดีกว่า บาดเจ็บ

บาดเจ็บ ดีกว่า พิการ

พิการ ดีกว่า ตาย

ป.ล. 1) Taser C2 ขายเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น และห้ามนำออกนอกประเทศเด็ดขาด

ป.ล. 2) เครื่องช็อตไฟฟ้าที่ขายแถวคลองถมเป็นของเมืองจีน มีแรงดันไฟฟ้าที่ยังไม่ถึงขั้น ดังนั้นเอาไปป้องกันตัวก็ไม่ใช่ว่าจะใช้ได้จริง แถมยังโดนตำรวจไทยจับอีกต่างหาก

[tags]อาวุธ,คอมพิวเตอร์,อิเลกทรอนิกส์,electrolaser,taser,taser c2[/tags]

Related Posts

10 thoughts on “อาวุธประจำกายแห่งอนาคต

  1. “อีกทั้งยังมีเวลาเพียงพอที่จะแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ตำรวจมาช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที”

    ท่าจะใช้ไม่ได้ในเมืองไทย…

  2. โอ้โห กลัวคนพกจะไม่ปลอดภัยอะื โดยเฉพาะคนซุ่มซ่ามอย่างออฟอ่ะ แทนที่จะโดนผู้ร้าย โดนตัวเองหล่ะ ที่นี้ก็จบเลย = =

  3. ครับคุณ crucifier มันน่าเสียดายที่ใช้ไม่ได้ในเมืองไทย T-T

    อ๋า ผมก็มีหน้าตาเป็นอาวุธเหมือนกันครับคุณ audy อิ อิ ^-^

    ใช่ ๆ เขาระบุไว้ชัดเจนว่าก่อนนำมาใช้ ต้องให้แน่ใจว่าแบตชาร์จมาเต็มครับคุณ 7 สำคัญมาก ๆ เลย

    อ๋า คุณอ๊อฟต้องฝึกก่อนใช้ครับ อาวุธทุกประเภทถ้าซื้อมาพก แต่ไม่เคยฝึกใช้เราก็ไม่ชำนาญสิครับ

    โอ้ว พลเมืองอเมริกันเขาพกปืนครับคุณ jackz ยิงตูมเดียวสมองกระจายไส้แตกเลย เขาเลยออกสินค้านี้มาแทน เพื่อจะได้ลดความรุนแรงในการป้องกันตัวบ้างยังไงล่ะ

  4. แล้วถ้าเกิดว่า ตอนกำลังจะใช้เจ้า Taser C2 เนี่ย ฝนดั๊นตกลงมา คนถูกช็อตจะตายไหมเนี่ย??? เหอๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *