ยุคนี้ใคร ๆ ก็ต้องถือว่า “เงิน” คือ “พระเจ้า” กันทั้งนั้น เพราะถ้าไม่มี “เงิน” เราก็คงใช้ชีวิตอยู่ไม่ได้แหงม ๆ
โดยเฉพาะในสภาวะสังคมเช่นนี้ สภาวะสังคมที่เราต้องพึ่งคนอื่น เพราะเราไม่สามารถจัดหาทุกสิ่งทุกอย่างให้กับตัวเราเองได้ …
ดังนั้นเราจึงต้องจ่าย “เงิน” เพื่อให้ได้มาซึ่งโภคภัณฑ์, ครุภัณฑ์, ผลิตภัณฑ์, ละมุนภัณฑ์ หรือ กระด้างภัณฑ์ อะไรก็แล้วแต่ มาใช้ในการอุปโภคและบริโภค เพื่อต่ออายุให้เรามีชีวิตอยู่รอดไปวัน ๆ!!!
โดยพื้นฐานแล้วการจ่าย “เงิน” ไม่ถือว่าเป็นเรื่องยากนัก แต่เนื่องจากมีอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้น มันก็เลยทำให้การจ่าย “เงิน” กลายเป็นเรื่องยากไป … เพราะมนุษย์เรามันไม่ค่อยจะเชื่อใจกันซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้านี่ยิ่งเชื่อใจกันยาก
ดังนั้น นวัตกรรมแห่งการจ่าย “เงิน” ผ่านอินเทอร์เน็ตจึงถูกคิดค้นขึ้น และต่อยอดกันขึ้นไปประดุจดั่ง “หอคอยแห่งพระเจ้า” เพื่อแก้ปัญหาความไม่เชื่อใจกันของมนุษย์ปุถุชน ที่ริจะค้าขายกันผ่านอินเทอร์เน็ต!!!
- ชั้นที่ 1) .. จ่ายด้วย “เงินสด” – ง่ายดี ตรงไปตรงมา
- ชั้นที่ 2) .. จ่ายด้วย “บัญชีออมทรัพย์” – เริ่มวุ่นวายขึ้นมานิดนึง แต่ก็สะดวกดีถ้าจ่ายเงินก้อนใหญ่
- ชั้นที่ 3) .. จ่ายด้วย “บัตรเครดิต” – ถ้าเงินเดือนไม่ถึง หรือไม่มีธุรกิจล่ะก็ … อด
- ชั้นที่ 4) .. จ่ายผ่าน “ตัวแทนจ่ายชำระ” – แบบนี้ดี เพราะปกปิดเลขที่หรือบัญชีให้เป็นความลับได้
- ชั้นที่ 5) .. จ่ายผ่าน “ตัวแทนของตัวแทนจ่ายชำระ” – (จะซับซ้อนไปมั้ยเนี่ย?)
โดยส่วนตัวแล้วผมสนใจ “ชั้นที่ 5)” มากเป็นพิเศษ เพราะการเป็น “ตัวแทนของตัวแทนจ่ายชำระ” นี่มันเท่ห์จริง ๆ ว่ะ!!!
ผมยังคิดต่อไปอีกว่ามันน่าจะมี “ชั้นที่ 6)” นะ เป็น “ตัวแทนของตัวแทนของตัวแทนจ่ายชำระ” ไปเลย ให้กลายเป็น “Monetary Payment Networking” ไปเลย เจ๋งป้าบ 😛
[tags]เงินสด, บัญชีออมทรัพย์, บัตรเครดิต, ตัวแทนจ่ายชำระ, ตัวแทนของตัวแทนจ่ายชำระ, หอคอยแห่งพระเจ้า, เงินตรา, จ่ายชำระ, ชำระเงิน[/tags]
พี่ไท้จ่ายผมตรงๆ ก็ได้นะคับ ไม่ต้องผ่านตัวแทนหรอก (ฮ่าาา) 😀
กำลังคิดหาวิธีหนีหนี้ใช่มั้ยเนี่ย
จ่ายค่าอะไรล่ะเนี่ยคุณ AMp ^-^
อ๋า ผมไม่มีหนี้สินเลยอ่ะคุณ kike T-T
อันที่จริง ชั้นที่ 5 เกิดจาการที่ user ใช้ ชั้นที่ 4 หรือ 3 หรือ2 ไม่เป็นรึเปล่าครับ ในโลกออนไลน์
*0*