ทุกคนที่เข้ามาในอินเทอร์เน็ตล้วนมีความเชื่อฝังใจที่เหมือนกันนั่นก็คือ ทุกอย่างที่เผยแพร่ในอินเทอร์เน็ตล้วนเป็นของฟรี!!
หนำซ้ำ บริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการอินเทอร์เน็ตของโลก ก็ล้วนฝังความเชื่อดังกล่าวให้แนบแน่น ด้วยการออกบริการต่าง ๆ ให้ใช้กันฟรี ๆ อีกต่างหาก
เรียกว่าเป็นการตอกตะปูปิดฝาโลง ไม่ให้ได้ผุดได้เกิดเพื่อไปเชื่อในแบบอื่นอีก!!!
มันก็เลยทำให้การทำธุรกิจ SaaS เป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก … หลายคนก็เลยต้องไปหาส่วนต่างจากการทำธุรกิจ Web Hosting แทน เพราะถึงแม้จะมีรายจ่ายเดือนล่ะเป็นแสน ๆ แต่เมื่อหักกลบลบกับรายรับแล้ว ก็ยังพอเหลือส่วนต่างกำไร 2x,xxx บาท … ซึ่งก็ยังดี พอถูไถไปได้!!!
แล้วถ้าเราจะฝืนทำธุรกิจ SaaS ต่อไป โดยไม่สนใจว่าความเชื่อฝังหัวของคนใช้อินเทอร์เน็ตจะเป็นยังไง … เราต้องทำยังไงดี?
งั้นเราก็ต้องเชื่อใน Best Practice ตามภาพข้างล่างแล้วล่ะ …
ภาพข้างบนอธิบายง่าย ๆ ว่า เมื่อ SaaS ของเรามีคนเข้ามาเมียง ๆ มอง ๆ ซัก 100 คน!
เราก็หวังว่าจะมีซัก 30 คนจาก 100 คนในนั้น ที่คิดจะสมัครเป็น “สมาชิก” เพื่อใช้บริการ SaaS ของเรา!
และสุดท้ายก็หวังว่าจะมีซัก 5 คนจากสมาชิกจำนวน 30 คน ที่จะยอมสมัครเป็น “สมาชิก VIP” แล้วยอมจ่ายตังค์ค่าบริการ SaaS ให้แก่เรา!!!
มองจาก Best Practice แล้ว การทำธุรกิจ SaaS ก็ไม่ต่างอะไรจากการทำ “เหมืองแร่” เลย พับผ่าสิ T-T
[tags]โมเดล, ธุรกิจ, SaaS, Best Practice[/tags]
น่าสนใจครับ ได้ความรู้เพิ่มเช่นเคย ^^
อย่าลืม ads สิพี่ 😉
ไอ้ 70%+25% นั่นน่ะ ลง ads ได้นะ
(คิดไปคิดมา adsense มันจับทางถูกซะจริง – -‘)
กลัวจะกลายเป็น 1% VIP แทนครับ:
http://en.wikipedia.org/wiki/1%25_Rule_(Internet_culture)
ทุกท่าน – ถ้า 1% แบบที่คุณ ekkmanz บอกนี่ยิ่งน้อยเข้าไปใหญ่เลยครับ T-T
ยัด ad กับ ads เข้าไปครับ
ได้ทั้ง 100 คน
ส่วนใครอยากได้ ทั้ง ปริมาณ และ คุณภาพ ก็เสร็จ VIP
แต่มีอีกอย่างหนึ่ง คือ donate ครับผม
^^