ตอนที่เล่นเกม Civilization แอบเห็นรูปแบบการปกครองที่เรียกว่า Universal Suffrage ซึ่งเป็นรูปแบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยทางตรง ไม่ผ่านตัวแทน ไม่จำเป็นต้องมีตัวแทน เพราะประชาชนมีสิทธิ์ในการลงคะแนนเพื่อเสนอมติ และลงคะแนนเพื่อบังคับใช้กฎหมาย
ถ้าเราตัดประเด็นที่ว่า การที่เราต้องมีตัวแทนก็เพราะเราไม่ชำนาญกฎหมาย, เราไม่มีเวลามาอภิปราย, เราไม่สนใจกฎหมายหลาย ๆ ตัว, มีกฎหมายให้พิจารณาอภิปรายเป็นตั้ง ๆ จนน่าเบื่อ หรือ เรื่องบางเรื่องเราแทบจะไม่มีความรู้เลย … ตัดประเด็นเหล่านี้ออกไป เราก็จะพบว่าโอกาสที่เราจะทำ Universal Suffrage นั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เพราะปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์, ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์, ระบบเครือข่ายโทรคมนม และ อินเทอร์เน็ตนั้น มันก้าวหน้าไปมาก มันช่วยแก้ลดต้นทุนเวลาในการตรวจนับคะแนน และการสืบค้นคะแนนได้
บางท่านคงคิดเหมือนผมว่า หากเราจะเอาระบบไฮเทคที่ว่ามาช่วยทำ Universal Suffrage เราจะต้องเผชิญกับปัญหาความโปร่งใส ปัญหาการตรวจสอบ ปัญหาการคดโคง ฯลฯ ซึ่งล้วนเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ … ก็ขอให้โยนเรื่องเหล่านั้นทิ้งไปก่อน ให้ตั้งธงเอาไว้ก่อนว่ามนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีคุณธรรม, จริยธรรม, มโนธรรม, ศีลธรรม และ มนุษยธรรม มีความบริสุทธิ์ใสปิ๊งในจิตใจและเล่นตามกฎเกณฑ์ของสังคมทุกประการ
โอเค เราโยนเรื่องพวกนั้นทิ้งไปแล้ว … งั้นก็มาดูดีกว่าว่าถ้าจะทำ Universal Suffrage นั้น เราจะมีช่องทางไหนบ้าง ที่จะให้ประชาชนผู้มีสิทธิ์ในทุกผู้ทุกคน สามารถเข้าถึงช่องทางการลงคะแนน และช่องทางการตรวจสอบการลงคะแนนได้
- เมื่อเราเข้า Seven Eleven หลังจากที่เราซื้อเบียร์และข้าวเกรียบกุ้งแล้ว ก่อนที่พนักงานจะรับตังค์จากเรา พนักงานก็จะถามเราว่า “จะลงมติกฎหมายเพิ่มเติมมั้ยค๊ะ?” แทนที่จะถามเราว่า “จะรับซาลาเปาหมูสับเพิ่มมั้ยค๊ะ?”
- Counter Service จะไม่รับชำระค่าสินค้าและบริการอย่างเดียว แต่จะรับการลงคะแนนเสียงด้วย
- ธนาคารพาณิชย์จะเปิดบริการให้ลงคะแนนเสียงผ่านตู้ ATM ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะคิดค่าธรรมเนียมหรือเปล่า?
- คนที่นั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ หรือฟังรายการวิทยุ จะสามารถส่ง SMS เข้าไปร่วมลงคะแนนเสียงได้ เหมือนกับที่เราช่วยกันโหวตให้ “กุญแจซอล AF6” (T-T แต่แพ้)
- สัดส่วนของโฆษณาสินค้าและบริการในอินเทอร์เน็ต, หนังสือพิมพ์, วิทยุ และ โทรทัศน์จะน้อยลง (อาจจะไม่มาก) และแทนที่ด้วยการประชาสัมพันธ์กฎหมายที่กำลังอยู่ในช่วงที่ต้องลงคะแนนเสียง รวมถึงประกาศว่ากฎหมายที่ผ่านด้วยคะแนนเสียงข้างมากและบังคับใช้นั้นมีฉบับไหนบ้าง
- หมู่บ้านที่มีโทรศัพท์สาธารณะแค่เครื่องเดียวก็สามารถลงคะแนนเสียงได้โดยผ่านระบบ IVR
- บัตรประชาชนแบบ Wireless Smart Card จะทวีความสำคัญมากขึ้น เพราะมันจะเป็นกุญแจที่ใช้ในการลงคะแนนเสียง
- คนที่ลงคะแนนเสียงอย่างสม่ำเสมอ จะมีชีวิตเหมือนกับตัวละครในเกมออนไลน์แบบ MMORPG คือยิ่งลงคะแนนเสียงก็จะยิ่งได้ EXP เยอะขึ้น, ได้รับ Level เยอะขึ้น, มี Skill หลากหลาย แถมอาจจะได้รับ Item พิเศษจากรัฐบาลอีกต่างหาก 😛
จะเห็นว่าเราไม่มีทางทำตามสมมติฐานข้างต้น (ที่โม้ส่งเดชเอาไว้) ได้เลย หากเราปราศจากระบบอิเลกทรอนิกส์ไฮเทคต่าง ๆ และที่สำคัญมันจะต้องเป็นระบบแบบรวมศูนย์ด้วย จึงจะสามารถร้อยเรียงเอาคะแนนเสียงทุก ๆ เสียง มาสกัดสังเคราะห์เป็นผลลัพธ์ของคะแนนอันทรงคุณค่าได้
เหนือสิ่งอื่นใด ถ้า Universal Suffrage เกิดขึ้นจริง ก็คงจะเป็นเรื่องดีสำหรับเอกชน เพราะธุรกิจที่เกี่ยวข้องยึดโยงอยู่กับ Universal Suffrage จะต้องเติบโตกล้าแข็งจนกลายเป็นกลุ่มทุนใหญ่แน่ ๆ และเมื่อถึงตอนนั้น กลุ่มทุนแปลก ๆ ที่เราไม่เคยรู้จัก อาจจะผงาดขึ้นมาบนสังเวียนธุรกิจก็ได้ … ใครจะรู้
[tags]Universal Suffrage, ระบบคอมพิวเตอร์, ระบบอินเทอร์เน็ต, ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์, ระบบเครือข่ายโทรคมนาคม[/tags]
แปลกดีครับ เพราะเท่าที่เคยเห็น universal suffrage ไม่ได้พูดถึงเสียทีเดียวว่าเป็นประชาธิปไตยทางตรง แต่พูดถึงแง่ที่ทุกคนมีสิทธิออกเสียง (จากเดิมที่ คนรวยเท่านั้น/ผู้ชายเท่านั้น/คนขาวเท่านั้น)
อ่านอย่างเดียวดีกว่า 😀
ใช่ ๆ คุณ chayanin เขาไม่ได้พูดถึงแบบตรง ๆ จริง ๆ ด้วย
ดีกว่านิดนึง อิ อิ
อืม พี่ครับ ประชาธิปไตรที่เราเป็นอยู่มันก็แปร่งๆ แบบไหนก็ได้ครับที่เราไม่ต้องมานั่งฟัดกัน แบ่งสีกันครับ อายชาวโลก ครับพี่
ปล.ขอบคุณมากครับพี่บทความนี้ อ่านก่อนขึ้นเครื่องไปแดนปลาดิบ