การปล้นชิงในเศรษฐกิจเสมือนจริง

เพราะมนุษย์ต้องกินต้องใช้ แต่มนุษย์ไม่สามารถหาของกินของใช้ได้เองทั้งหมด มนุษย์จึงต้องคิดค้นวิธีเพื่อให้ได้มาซึ่งของกินของใช้ที่ตนต้องการ

ช่วงแรกมนุษย์ที่แข็งแรงกว่าเลือกใช้วิธีปล้นชิงจากมนุษย์ผู้อื่นที่อ่อนแอกว่า แต่เมื่อได้รับการต่อต้านอย่างหนัก อีกทั้งมนุษย์ที่อ่อนแอกว่าพยายามพัฒนาตัวเองให้แข็งแรงทัดเทียมกัน ทำให้การปล้นชิงต้องเลิกลาไป (แต่ยังไม่หมดไป) และมนุษย์ก็หันมาใช้วิธีค้าขายของกินของใช้กันแทน

ด้วยสมมติฐานในย่อหน้าข้างบน ทำให้เราตระหนักได้เรื่องหนึ่งว่า มนุษย์จะไม่ค้าขายกับสัตว์หรือพืชอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่เพราะว่าเราคุยกับสัตว์หรือพืชไม่รู้เรื่อง (ทุกวันนี้มนุษย์ก็ยังคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง T-T) แต่เป็นเพราะว่ามนุษย์แข็งแรงกว่าสัตว์และพืช จนกระทั่งสามารถปล้นชิงจากสัตว์และพืชได้อย่างแน่นอน 100%

ถึงแม้ว่าการค้าขายจะถูกพัฒนาจนกระทั่งกลายเป็นระบบเศรษฐกิจ มีการใช้เงินตราเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน มีแบบแผนระเบียบปฏิบัติมากมายเพื่อมาบังคับใช้ แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่า กมลสันดานของมนุษย์ดึกดำบรรพ์ (ที่ชอบปล้นชิง) ก็ยังคงมีอยู่ในตัวมนุษย์เราทุกคน เพียงแต่ถูก หิริ โอตตัปปะ ควบคุมเอาไว้อยู่!!!

ดังนั้นเราจึงมักจะพบการปล้นชิงรูปแบบต่าง ๆ ในเศรษฐกิจจริงอยู่เนือง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้ากำลังเลือกซื้อทองอยู่ดี ๆ พอคนขายเบลอหน่อยเดียว ลูกค้ากลายเป็นโจร ฉกทองหนีไปดื้อ ๆ ซะงั้น หรือ ลูกค้าจ่ายเงินให้คนขายดีวีดีตามแผงลอย กำลังจะได้รับของอยู่แล้วแท้ ๆ เชียว เจ้าหน้าที่รัฐก็โผล่พรวดพลาดเข้ามา ทำเอาวงแตกกระเจิงคนขายหนีหายไปพร้อมกับเงินของลูกค้า เป็นต้น

เพราะปัญหาติงต๊อง (แต่จริงจัง) เรื่องการปล้นชิงในเศรษฐกิจจริงนี่เอง จึงทำให้เกิด Prototype ต่าง ๆ ในระบบเศรษฐกิจเสมือนจริงเพื่อแก้ปัญหาในย่อหน้าข้างบน ไม่ว่าจะเป็นการ Encryption, Authorization, Authentication, Asynchronous transfer เป็นต้น

แต่โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่า Prototype ในย่อหน้าข้างบน ไม่มีทางแก้ปัญหาได้อย่างสมบูรณ์หรอก ถ้าหากว่าเราใช้มันอย่างไม่ถูกจุด!!!

การปล้นชิงในเศรษฐกิจเสมือนจริง

จากตารางข้างบนทำให้เราสรุป (มั่ว ๆ) ได้ระดับนึงว่า ถ้าเราเอาการ Encryption, Authorization, Authentication หรือ Asynchronous transfer มาใช้กับการแลกเปลี่ยนสินค้า/บริการเสมือนจริง ด้วยเงินตราเสมือนจริงอย่างเข้มงวดรัดกุม โอกาสที่จะมีการปล้นชิงในระบบเสมือนจริงก็น่าจะแทบจะไม่มีเลย!

เว้นเสียแต่ว่า ไอ้คนทำระบบมันเปิดโอกาสให้มีการปล้นชิงนั่นแหล่ะ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงจะต้องตัวใครตัวมันแล้วล่ะครับ!!!

[tags]การปล้น, การชิง, สินค้า, บริการ, เงินตรา, เสมือนจริง, เศรษฐกิจ[/tags]

Related Posts

5 thoughts on “การปล้นชิงในเศรษฐกิจเสมือนจริง

  1. หวัดดีครับพี่ไท้
    คำว่าเงินตราเสมือนจริง นี่รู้สึกว่าเคยได้ยินตั้งแต่ที่พี่ไท้เขียน Blog ไว้แรกๆ ละเรื่อง “เงินดิจิตอล”
    แต่สินค้าเสมือนจริงนี่สิ ไม่รู้ว่าผมคิดเหมือนที่พี่คิดเปล่า
    ที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ต้องส่งเงินและสินค้า ไปที่คนกลาง (ซึ่งตอนนี้ผู้ซื้อก็เหมือนได้สินค้าเสมือนจริงไว้ในมือละ) หากคนกลางตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหาไม่มีการโกงกัน ก็จะส่งสินค้าจริงไปให้ผู้ที่มีสินค้าเสมือนจริงอยู่ในมือ และส่งเงินเสมือนจริงเข้าไปบัญชีผู้ขาย ซึ่งผู้ขายก็สามารถไปเปลี่ยนเป็นเงินจริงได้

  2. สนุกดีครับ ผมชอบบทความแนวนี้ของพี่ไท้มั่ก ๆ ^^

    ‘มนุษย์จะไม่ค้าขายกับสัตว์หรือพืชอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่เพราะว่าเราคุยกับสัตว์หรือพืชไม่รู้เรื่อง …. แต่เป็นเพราะว่ามนุษย์แข็งแรงกว่าสัตว์และพืช จนกระทั่งสามารถปล้นชิงจากสัตว์และพืชได้อย่างแน่นอน 100%’

  3. “มนุษย์จะไม่ค้าขายกับสัตว์หรือพืชอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่เพราะว่าเราคุยกับสัตว์หรือพืชไม่รู้เรื่อง …. แต่เป็นเพราะว่ามนุษย์แข็งแรงกว่าสัตว์และพืช จนกระทั่งสามารถปล้นชิงจากสัตว์และพืชได้อย่างแน่นอน 100%”

    ปรัชญาชัดๆ!

  4. ดีใจด้วยคุณ AMp ที่หนึ่ง ^-^

    เออ ที่คุณ Bad บอก น่าคิดแฮะ!!

    มันเป็นปรัชญาโพด ๆ เลยล่ะคุณ Shoot คุณ crucifier อิ อิ 😛

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *