ความทรงจำ

มนุษย์เราจะไม่สามารถดึงเอาประสบการณ์ออกมาใช้ได้เลยครับ หากขาดซึ่งความทรงจำ ความทรงจำจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก บางครั้งสำคัญกว่าความสามารถในการวิเคราะห์ หรือคำนวณซะอีก

ผมเคยมีรุ่นน้องคนนึงสมัยเรียน เขามีความสามารถในการคำนวณทางคณิตศาสตร์สูงมาก แต่กลับมีความทรงจำที่แย่มาก ถ้าเทียบกับคอมพิวเตอร์แล้วก็คงเหมือนกับเครื่องที่ใช้ CPU Intel Celeron 2.2 GHz ที่มี RAM เพียงแค่ 1MB, ไม่มีฮาร์ดดิสค์อยู่ในตัวเองเลย และทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ MS-DOS 6.0

อือม ดูไม่จืดเลย เพราะถึงทรงพลังในการประมวลผล แต่กลับขาดซึ่งความทรงจำยิ่งนัก

ปัจจุบันเราจะพบว่าคอมพิวเตอร์เอง ก็มีรูปแบบในการเก็บความทรงจำของตนเองที่ซับซ้อนมากขึ้น ผมไม่เล่าถึงหน่วยความจำสำรองอย่าง Disk หรอก เพราะนั่นไม่ใช่กุญแจสำคัญ ผมสนใจหน่วยความจำที่เรียกว่า Virtual Memory มากกว่า

ระบบปฏิบัติการที่ดี นอกจากจะสามารถคุยกับ CPU ของคอมพิวเตอร์รู้เรื่องแล้ว สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในปัจจุบันก็คือ ต้องสามารถสนับสนุนการทำงานหลาย ๆ งานพร้อม ๆ กันได้

นั่นย่อมแสดงว่าระบบปฏิบัติการ ต้องเก่งเรื่องการจัดการหน่วยความจำนั่นเอง!!!

จากภาพข้างบนจะเห็นว่า Virtual Memory ก็คือพื้นที่ของ RAM ทั้งหมด รวมกับบางส่วนที่เป็น Disk ของเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าว

การบริการแบบ Software as a Service เองก็ต้องใช้ Virtual Memory เหมือนกัน และผมจะยินดีมาก หาก Virtual Memory ที่ถูกใช้เป็น Virtual Memory ของเครื่อง Server ไม่ใช่ของเครื่อง Desktop Client ของผม

แต่ดูเหมือนว่าเราจะเริ่มเห็นกันแล้ว ว่าเทคโนโลยีของ SaaS นั้น เริ่มหันเหมาทาง Rich Internet Application ที่จะทำให้ Web Browser ทำงานได้เหมือนกับ Desktop มากขึ้น แล้วผมก็พบว่ามันกิน Virtual Memory ของเครื่องผมอ่ะ โดยกินผ่านมาทาง Web Browser อีกทีนึง กินเยอะด้วย

ถึงสุดท้าย ตัวชี้ขาดความเติบโตของ SaaS คงไม่ใช่กลไก Rich Internet Application แล้วล่ะ แต่กลับเป็นกลไกของ Web Browser มากกว่า ว่าจะสามารถจัดการ Virtual Memory ได้อย่างทรงพลังแค่ไหน

ต่อไป Web Browser เพียง 1 Session จะสามารถทำงานได้หลาย ๆ อย่างพร้อม ๆ กัน เมื่อถึงตอนนั้น ถ้า Web Browser ยังจัดการ Virtual Memory ของเครื่อง Client ได้ไม่ดีแล้วล่ะก็ SaaS ก็จะพบกับแนวต้านที่ยากลำบากอย่างแน่นอนครับ

[tags]Software as a Service, SaaS, ความทรงจำ, Virtual Memory, Web Browser[/tags]