ผมมักนึกขอบคุณผู้คิดค้นสมการคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และผู้สร้างเครื่องกำเนิดไฟฟ้าอยู่เสมอ พวกเขาเป็นผู้วางรากฐานให้เกิดอินเตอร์เน็ตจนถึงทุกวันนี้
มองไปรอบ ๆ ตัวเราสิ เครื่องมือเครื่องใช้อันทันสมัยส่วนใหญ่ ล้วนถูกหล่อเลี้ยงด้วยระบบไฟฟ้าทั้งนั้น
ที่ทุกวันนี้ประเทศมหาอำนาจทะเลาะเบาะแว้งกัน เพื่อจะแย่งแหล่งพลังงานต่าง ๆ ก็ล้วนเพื่อนำพลังงานเหล่านั้น มาสร้างกระแสไฟฟ้า, กำลังไฟฟ้า และสัญญาณไฟฟ้า เพื่อใช้หล่อเลี้ยงเครื่องมือเครื่องใช้อันทันสมัย ให้เครื่องมือเหล่านั้นช่วยส่งเสริมอำนาจทางทหาร, เศรษฐกิจ และการเมืองอีกทอดนึง
เคยทราบกันมั้ยครับว่า ในยุคคอมพิวเตอร์ตั้งต้นนั้น ก็มีการ hack ระบบคอมพิวเตอร์กันแล้ว เพียงแต่จุดประสงค์ในการ hack นั้น มันช่างต่างจากปัจจุบันนี้มากเหลือเกิน
ปัจจุบันนี้การ hack ระบบคอมพิวเตอร์ มีจุดประสงค์เพื่อการจารกรรมข้อมูล และการทำอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์เป็นหลัก
แล้วสมัยก่อนล่ะ เขา hack ระบบคอมพิวเตอร์เพื่ออะไร? อ่านแล้วอาจจะงง เขา hack เพื่อแอบเข้าไป run โปรแกรมของตนเองครับ!!! (เหตุการณ์แบบนี้เมืองไทยไม่มีครับ มีแต่เมืองนอก)
สมัยนั้นสมรรถนะของเครื่องระดับ MainFrame กับเครื่อง PC ทิ้งห่างกันมาก ดังนั้นใครก็ตามที่ต้องการจะ run โปรแกรมที่มีความซับซ้อนสูงมาก ๆ จึงไม่สามารถทำที่ PC ได้
ดังนั้นจึงต้องแอบขโมย CPU Time, Memory Usage และ CPU Usage ของ MainFrame ของบริษัทใหญ่ ๆ ครับ
ผมเจอโจทย์คำถามนี้ในข้อสอบปลายภาคของวิชา Computer Security เมื่อสมัยที่ผมยังเรียนอยู่ โดยโจทย์ต้องการคำตอบว่า เราจะตรวจรู้ได้ยังไงว่ามี hacker เข้ามาขโมย run โปรแกรมใน MainFrame ของเรา ถ้าเราไม่มีซอฟต์แวร์อะไรเลย ที่จะใช้ Monitor ไอ้เจ้า MainFrame เครื่องดังกล่าวของเรา
ท่านอาจารย์จั่วหัวไว้ในข้อสอบเลยว่า ถ้าใครทำข้อนี้ได้ถูกต้อง ท่านจะให้เกรด A เลย โดยไม่ต้องตอบข้ออื่น ๆ อีก 7 ข้อก็ได้ แหมะ สู้ตายสิงานนี้!!!
ผมตอบทุกข้อแล้วก็ตอบข้อนี้ด้วย ผมตอบว่า …
ให้ตรวจสอบจากค่าไฟฟ้าที่ใช้จ่ายเข้าห้อง MainFrame แต่ล่ะเดือน ว่ามีการกระโดดเกินค่าเฉลี่ยที่ควรจะเป็นหรือไม่ ด้วยเหตุผลเพราะว่า ถึงแม้ว่าคอมพิวเตอร์จะเป็นวงจรอิเลกทรอนิกส์ที่กินประจุไฟฟ้าก็ตาม แต่หากมันทำงานเพิ่มขึ้น, หนักขึ้น มันก็ย่อมต้องเร่งการอมประจุไฟฟ้าและคายประจุไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งนำมาซึ่งการกินกระแสไฟฟ้าที่เยอะขึ้นนั่นเอง
คิดว่าเดี๋ยวนี้คงไม่มีใครเสี่ยงคุกเสี่ยงตาราง เพื่อจะเข้าไปขโมยใช้ CPU Time ของ Server เพื่อใช้ run โปรแกรมที่ซับซ้อนของตัวเองแล้วเน้อะ 😛
[tags]computer security,hacker,hack,CPU time, CPU usage, Memory usage, คอมพิวเตอร์, ไฟฟ้า[/tags]
แหม่ๆ ถ้าใช้วิธีนี้ดูว่าโดน hack หรือเปล่า มิต้องรอจนบิลค่าไฟมาหรือครับ 😀
ดูโจทย์นี้แล้วนึกถึงปัญหาเชาว์อันนึงครับ
โจทย์มีว่า มีหลอดไฟในห้องอยู่ 3 หลอด เปิดไฟอยู่เพียงหลอดเดียว หลังจากปิดไฟแล้ว ก็จะพาเราเข้ามาในห้อง แล้วให้บอกว่าหลอดไฟอันใหนที่ถูกเปิดไว้
คำตอบของโจทย์นี้คือ ความร้อนครับ ลองแตะดู หลอดใหนร้อนก็คือหลอดนั้นแหละครับ(มีใครคิดวิธีอื่นได้เปล่ามะรู้)
สำหรับโจทย์ข้อ Mainframe ผมเลยนึกถึงปัญหาข้อนั้น ถ้าคุณไท้คิดว่าเครื่องจะกินไฟมากขึ้นถ้าถูกแอบใช้งาน เครื่องจะสามารถร้อนขึ้นได้หรือเปล่า ถ้าได้ เราแค่ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิเข้าไป จะแบบง่ายหรือซับซ้อนไม่ว่ากัน ถ้าซับซ้อนหน่อยก็ให้มันแสดงผลหรือแจ้งเตือนว่าความร้อนขึ้นผิดปกติจากค่าเฉลี่ยได้ก็จะสะดวก
แล้วตกลงได้ A ป่ะครับคุณไท้ หรือว่าตอบอีก 7 ข้อ เผื่อเหนียวไว้ อิอิ
นั่นสิ บอกมาอย่างนี้เลยอยากรู้เลยว่าถูกหรือป่าว ^ ^
ลองเอามาโม้แบบนี้ แล้วจะเหลือเหรอครับ 😛