คิดว่าหลายคนคงเคยได้ใช้สินค้าที่ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งกันนะครับ สินค้าพวกนี้มีเยอะแยะในตลาดซะด้วยสิ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษทิชชู่, ถุงยางอนามัย, เข็มฉีดยาในโรงพยาบาล, มีดโกนในร้านตัดผม, บัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ, ตั๋วชมภาพยนต์ เป็นต้น
ลักษณะเด่นของสินค้าประเภทนี้ก็คือ ต้นทุนไม่สูง, ผลิตไม่ยาก, ผลิตเป็นจำนวนมาก และหาซื้อได้ง่าย!!!
แต่ลักษณะเด่นเหล่านี้มันช่างต่างจาก “ซอฟต์แวร์แบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง” มาก ๆ เลยครับ ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ถูกสร้างออกมาอย่างยากลำบาก แต่แล้วกลับถูกใช้แค่ครั้งเดียว แล้วก็ถูกโยนทิ้งไม่เหลียวแลเลย มันเป็นไปได้ไง เพราะอะไร???
คำตอบก็อยู่ตรงที่ผลลัพท์ที่ได้จากซอฟต์แวร์ดังกล่าวยังไงล่ะครับ ซอฟต์แวร์ดังกล่าวจะให้คำตอบได้เพียงคำตอบเดียวเท่านั้น และต่อให้สั่งให้ทำงานซ้ำ ๆ กันยังไง มันก็ยังคงได้คำตอบเดียวเหมือนเดิมอยู่ดี
แล้วเขาสร้างมันขึ้นมาทำไมกัน?
สาเหตุที่เขาสร้างซอฟต์แวร์ที่มีตรรกะและเงื่อนไขอันตายตัว แถมรับข้อมูลนำเข้าที่ตายตัวแบบนี้ก็เพราะ เขาต้องการใช้ศักยภาพในการคำนวนอันแม่นยำ และพละกำลังในการวนรอบประมวลผลของคอมพิวเตอร์นั่นเอง!!!
สมัยก่อนเมื่อหลายปีก่อนนู้น ผมก็เคยต้องสร้างซอฟต์แวร์แบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งเหมือนกัน มันเป็นซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นเพื่อดึงข้อมูลทะเบียนบริษัทจากเว็บของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ … เมื่อได้ผลลัพท์แล้ว ซอฟต์แวร์ตัวดังกล่าวก็หมดประโยชน์ทันที ไม่ถูกนำมาใช้ใหม่อีกแล้ว ไม่แม้แต่จะเอาซอร์สโค้ดมาแก้ไขเพื่อใช้สำหรับสร้างซอฟต์แวร์ตัวใหม่อีก
ตอนนั้นเจ้านายสั่งให้ทำก็ทำ ไม่ได้เอะใจสงสัยอะไร แต่มาภายหลังจึงรู้ว่าการที่ผมเขียนซอฟต์แวร์ตัวดังกล่าวขึ้นมา โดยใช้เวลาเขียนเพียงอาทิตย์เดียวนั้น มันสามารถทุ่นแรงงานของพนักงานอีกหลายสิบชีวิต ที่จะต้องกดเว็บเพื่อลอกข้อมูลมาแปะไว้ใน Excel แบบถึก ๆ มากอักโขทีเดียว
คำนวณคร่าว ๆ แล้วถ้าให้พนักงานเป็นสิบ ๆ คน ลอกข้อมูลบริษัทจดทะเบียนเท่าที่มีจากเว็บดังกล่าว คงใช้เวลาเป็นเดือน ๆ กว่าจะเสร็จ แต่ผมแค่สั่งให้โปรแกรมมันทำงานแบบอัตโนมัติ มันกลับใช้เวลาทำงานเพียงแค่สองชั่วโมงเท่านั้น ก็สามารถรวบรวมผลลัพท์ได้อย่างที่ต้องการแล้ว
ในอนาคตข้างหน้า โปรแกรมเมอร์ที่สามารถสร้างซอฟต์แวร์แบบใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง น่าจะเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่านี้ครับ เพราะผมเชื่อว่าต่อไปคงจะมีโจทย์คอมพิวเตอร์อีกหลาย ๆ โจทย์ ที่ไม่สามารถใช้ซอฟต์แวร์แบบปรกติแก้โจทย์ได้เป็นแน่ครับ
[tags]คอมพิวเตอร์, ซอฟต์แวร์, การสร้างซอฟต์แวร์[/tags]
อ่านทีไร ได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มทุกวันเลย
ไม่รู้จะคุยอะไร ชอบอ่านเฉยๆ ไม่เก่งคอมคับพี่
อนาคตอาจจะใช้วิธีจ้างแรงงาน(ถูกๆ เยอะๆ)ครั้งเดียวแล้วทิ้ง แทนก็เป็นไปได้นะครับ :-p
ผมก็กำลังจะต้องทำ ซอฟต์แวร์อย่างที่พี่ไท้ว่าเหมือนกันครับ แต่ว่าใช้หลายครั้งหน่อย แต่นานๆครั้ง 🙂
ฮะๆๆๆๆ จะออกความเห็นยังไงดีหละเนี่ยะ จริง ๆ ผมว่าเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยมอย่างมากครับ (แต่ก็กลัวเหมือนคุณ panuta ว่าจังเลย ฮะๆๆๆๆ)
ผมว่าค่าจ้างโปรแกรมเมอร์แบบนี้ไม่ถูกหรอกครับ เพราะเขาคนเดียวสามารถเขียนโปรแกรมเพื่อทดแทนแรงงานได้นับสิบคน อีกทั้งต้องมีความรอบรู้เป็นอย่างมากด้วย
ส่วนผมที่เคยทำโปรแกรมครั้งเดียวแล้วทิ้งก็เป็นพวก Conversion program ที่ทำการ mapping และโอนข้อมูลจากระบบเดิมมาระบบใหม่พร้อมๆ กับทำ process บางอย่างครับ เมื่อ conversion ระบบเสร็จก็ทิ้งโปรแกรมนั้นได้เลยครับ
เหมือนคุณ noom ครับ ส่วนใหญ่ software แบบนี้จะใช้ในการ migrate ระบบ และน่าจะเป็นสิ่งที่ทำบ่อยๆ เพราะระบบใหม่ย่อมต้องการข้อมูลจากระบบเดิมเสมอ
แหม ผมไม่ได้หมายถึงจ้างโปรแกรมเมอร์ซะหน่อย เดี๋ยวนี้เด็กม.ต้นก็ใช้คอมพิวเตอร์กันคล่องแล้ว จ้างคนธรรมดาๆ ค่าแรงไม่แพงเท่าไหร่หรอกมังครับ (แต่นี่คือก็พูดขำๆ ในความเป็นจริง มากคนก็มากความ ไม่แนะนำให้เอาไปใช้จริงๆหรอกครับ)
ยังไม่เก่งพอ จะทำ ขอเก็บไว้ใช้หลายๆงานดีกว่า (ว่าจะเอาโปรเจคเดียวกันส่งหลายๆวิชา)
ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ผมว่าถ้าสำหรับนักศึกษา Java น่าจะเคยเจอคือการเก็บข้อมูลเป็น Object ลง File ในโจทย์เขาบอกให้ดึงข้อมูลออกมา โดยใน file มีข้อมูลดังนี้ โดยไม่ได้พูดถึง step ต้องนำข้อมูลเข้าก่อน ดังนั้นเราถึงสร้าง Program Run เพียงครั้งเดียวเพื่อนำข้อมูลเข้าไปเก็บก่อน
มีลักษณะคล้ายใช้ครั้งเดียวทิ้งเหมือนกันนะเนี้ย 🙂
เป็นแนวคิดที่น่าสนใจมากเลยครับ
หากเราสามารถ นำหลายๆตัวอย่าง การแก้ปัญหาด้วยโปรแกรมใช้ครั้งเดียว
อย่าง ปัญหาที่พี่ไท้ยกขึ้นมานั่นล่ะครับ แต่เป็นอีกหลายๆแบบ
มาขึ้นแสดงเป็น บริการ ให้ลูกค้าสามารถดูได้ และเลือกใช้บริการ
ก็น่าจะลองทำเป็นธุรกิจได้เลยอะครับ
บริษัทที่ผมอยู่ มีฝั่งนึงที่ต้องทำแบบนี้อยู่บ่อยมากครับ เพราะ product ต้อง customize เยอะ
ใช้ครั้งเดียวทิ้งนี่ผมว่าพวกนี้็ใช้พวก scripting language อย่าง python, ruby น่าจะง้ายง่าย
ไอ้โปรแกรมพวกนี้ ผมก็ทำอยู่บ่อยๆเหมือนกันครับ
อ้าว ผมนึกว่าคุณ next อยู่สายคอมซะอีก
อ๋าคุณ panuta แรงงานไอทีกลายเป็นกระดาษทิชชู่ไปซะแล้ว T-T
เน้อะคุณ patr บางทีมันก็น่าเสียดาย ถ้าใช้แค่ทีเดียวแล้วก็ทิ้ง ใช้ซักสองทีทิ้งค่อยว่าไปอย่าง (อ้าว)
คุณสิทธิศักดิ์เดี๋ยวนี้เน้นแต่ amazon affiliate ผมเลยไม่รู้จะออกความเห็นไงเหมือนกัน เพราะผมขาดคุณสมบัติของพ่อค้าอย่างรุนแรงครับ
ส่วนใหญ่นายทุนจะกดค่าแรงโปรแกรมเมอร์ครับคุณ noom ชีวิตมันโหดร้าย
ใช่ ๆ คุณ it44 และถ้ามีระบบใหม่ขึ้นเป็นร้อย ๆ ระบบนะ แทบอยากจะวิ่งหนีไปไกล ๆ ไม่อยากยุ่งด้วยเลยล่ะ เพราะมันมีโปรแกรมใช้แล้วทิ้งที่ต้องสร้างเป็นพะเรอเกวียนเลย
ผมมีซอร์สโค้ดที่เก็บไว้เยอะเหมือนกันล่ะคุณ pete แต่เมื่อกลับไปดูแล้วก็พบว่า มันแทบจะเอามาใช้ทำอะไรไม่ได้เลย มันอนุบาลมาก ๆ T-T
เห็นด้วย ๆ คุณ DominixZ
คงทำได้แต่ธุรกิจ specialist อ่ะครับคุณ businet แบบว่าทำเสร็จแล้ว จ่ายเงินปุ๊ป ก็ดิ้นไปทำที่อื่นต่อปั๊ป อะไรงี้ (ทำเหมือนดาราถ่ายละครเลย)
ผมก็คิดเหมือนกันนะคุณ xinexo ว่าคนที่ต้องทำซอฟต์แวร์ที่ใช้ครั้งเดียวก็ทิ้งเนี่ย เค้าจะได้ทักษะหรือระดับสติปัญญาอะไรเพิ่มบ้างหรือเปล่า
python + ruby เป็นอะไรที่ใหม่มากครับ องค์กรส่วนใหญ่จะไม่ได้ใช้ พอเด็กจบใหม่เข้าไปทำงาน ก็จะไม่สามารถคัดง้างกับภาษาคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ก่อนแล้วได้อ่ะครับคุณ wiennat ต้องเข้าไปทำภาษาคอมพิวเตอร์เดิมที่เค้ามี พอเป็นงี้ ก็เลยไม่ได้ทำอะไรที่ใช้ python + ruby กันซะที
มองตรงกันข้ามครับ
บางครั้ง การลงทุนเขียนโปรแกรมพวกนี้ อาจจะแพงกว่า ทุ่มกำลังคนเข้าสู้ซะอีก นะ.. บางครั้งสูงกว่าเยอะเลย
หลายคนอาจจะมองว่า “ไม่คุ้ม” แต่ผมเห็นว่า “มองเกมส์ อย่างรอบคอบ” คับ
ใครไม่ทำสิ ผมว่า “ไม่ฉลาด” เพราะคุณกำลังเสี่ยงกับ ปัญหา human error, roll back, audit, etc.. สารพัด ซึ่งพวกนี้ เรามองไม่เห็นตอนจะทำหรอก หรือไม่ก็มองข้ามไป เพราะคิดแต่ว่ามันจะไม่เกิด
แต่ถ้าใครเจอเข้าซักครั้งนะครับ ปวดหัวสุดๆ แล้วจะนั่งเสียใจว่าทำไม “ไม่ทำแบบนั้นซะตั้งแต่แรก”
สำหรับคนที่คิดว่า จะรับความเสี่ยงพวกนี้ไม่ไหว ก็คิดให้รอบคอบนะครับ
เคยแต่ทำ แบบว่า ยังไม่ทันใช้ก็ถูกทิ้งอ่ะ หลายรอบด้วย คริก ๆ
แวดวงข้าราชการก็งี้แหละ เจอเยอะเลย
เสียเงินจ้างก็มาก
เสียเวลาวิเคราะห์ไปก็มาก
เศร้าไม่หายเลยยยย
แบบว่า อิมพลิเมนท์ไม่สำเร็จ เพราะไม่มีใครเอาจริง
555 ฟังหัวข้อแล้วน่าแปลกใจ
แต่เอาจริง ๆ มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ในชีวิตโปรแกรมเมอร์นะครับ เนี่ย..
Migrate ระบบครับ
ตรงกันข้ามเลย เขียนโปรแกรมเพื่อเอา *.DBF มาเข้า Exel ใช้กันชั่วคราวไปก่อน….