มนุษย์เรามีลักษณะพิเศษอย่างนึงที่พิเศษมาก นั่นก็คือเราชอบคิดค้นประดิษฐ์นวัตกรรมต่าง ๆ ออกมา แล้วสุดท้ายไอ้เจ้านวัตกรรมเหล่านั้นก็ควบคุมเราเอาไว้ จนแม้กระทั่งเราไม่สามารถจะเอาชนะหรือท้าทายอะไรกับมันได้
- มนุษย์เราประดิษฐ์ปืนขึ้นมา แต่เรากลับสู้ปืนไม่ได้ถ้ามีคนใช้ปืนนั้นกับเรา
- มนุษย์เราประดิษฐ์เครื่องคิดเลขขึ้นมา แต่เรากลับคิดเลขได้ไม่เร็วกว่ามัน
- มนุษย์เราประดิษฐ์รถยนต์ขึ้นมา แต่เรากลับวิ่งเร็วสู้รถยนต์ไม่ได้
- มนุษย์เราประดิษฐ์คอมพิวเตอร์ขึ้นมา แต่เรากลับประมวลผลสู้คอมพิวเตอร์ไม่ได้ และ
- มนุษย์เราประดิษฐ์ระบบเงินตราขึ้นมา แต่เรากลับถูกมันสยบศิโรราบเอาไว้ ไม่กล้าหือกับมัน!!!
เมืองไทยเราก็มีลักษณะเหมือนประเทศทุนนิยมทั่วไป นั่นก็คือ ไม่ว่าจะเป็นชนชั้นกลางหรือชนชั้นล่างก็ล้วนร้อนเงินเหมือนกัน แปลกมั้ย? คงไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะเขาเหล่านั้นมีค่าใช้จ่ายมากกว่ารายได้ ถึงแม้จะพยายามที่จะไม่จับจ่ายมากกว่ารายได้ที่ตัวเองมีก็ตาม
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจอะไร ถ้าเราได้ยินเรื่องราวของการที่คนโน้นกู้เงินจากคนนี้ คนนี้ติดหนี้คนนั้น คนนั้นมีหนี้สินล้นพ้นตัว เป็นต้น
เสียดายที่พวกเขาเหล่านั้นไม่เคยรู้ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวสองอย่างเกี่ยวกับระบบเงินตรา นั่นก็คือ …
- เงินตราต้องถูกออกใช้ให้น้อยกว่าความต้องการ นั่นหมายความว่าทุกวันนี้จริง ๆ แล้วเงินมีไม่พอให้ใช้กันนั่นแหล่ะ ดังนั้นทุกคนจึงต้องขวนขวายดิ้นรน ไม่งั้นก็ไม่มีเงินใช้ ซึ่งมันเป็นอุบายของรัฐบาลที่จะให้คนในประเทศสร้างผลผลิตนั่นเอง
- เมื่อเงินไม่พอใช้ก็ต้องหยิบยืม กู้หนี้ยืมสินมา แล้วก็บังเอิญว่าสิ่งที่ทำให้เราต้องดิ้นรนโหยหวนหนักกว่าเดิมก็คือ “ดอกเบี้ยทบต้น” ซึ่งเป็นสารหนูที่เร่งให้เราต้องสร้างผลผลิตมากขึ้น เพราะนอกจากต้องคืนเงินต้นซึ่งก็ไม่ใช่จะทำง่าย ๆ แล้ว ก็ยังจะต้องคืนดอกเบี้ยทบต้นอีกด้วย
ดอกเบี้ยทบต้นจึงถือได้ว่าเป็นอาหารอันโอชะของเจ้าหนี้ ในขณะที่เป็นอนุมูลอิสระที่จะก่อมะเร็งให้กับลูกหนี้ได้เลย!!!
เมื่อดอกเบี้ยทบต้นคือรูปแบบการสร้างผลตอบแทนที่เจ๋งเป้งขนาดนี้ จึงทำให้มีหลาย ๆ คนคิดที่จะอยากปล่อยกู้ ทำตัวเป็นเจ้าหนี้ปล่อยกู้ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นก็ยังปล่อยกู้กันแบบ offline อยู่ คืออาศัยการแปะป้ายโฆษณาชิ้นเล็ก ๆ ไว้ตามที่ต่าง ๆ พร้อมทั้งทิ้งเบอร์โทรศัพท์เอาไว้เพื่อให้ติดต่อกลับ
ผ่านมากี่ปีกี่ปี รูปแบบก็ยังเดิม ๆ!!!
ตอนนี้ผมกำลังมองเห็นอนาคตลาง ๆ อยู่ อนาคตที่การปล่อยเงินกู้นอกระบบแบบออนไลน์ หรือเงินด่วนนอกระบบแบบออนไลน์กำลังจะอุบัติขึ้น การปล่อยเงินกู้ออนไลน์ที่คนปล่อยเงินกู้กับคนรับเงินกู้ อาจไม่จำเป็นต้องเห็นหน้ากันเลย เพียงแค่กรอกข้อมูลบางอย่างผ่านหน้าเว็บไซต์ แล้วปล่อยให้กลไกของเว็บไซต์จัดการทุกอย่างให้เอง
ถึงตอนนั้นบริษัทข้อมูลเครดิตกลางอาจเปิดช่องให้เว็บไซต์ต่าง ๆ สามารถต่อเชื่อมเข้าไปในระบบ เพื่อขอตรวจสอบเครดิตของผู้กู้ได้อย่างสะดวก ซึ่งการเปิดช่องดังกล่าวอาจมีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำที่ราคาถูก และมีความยืดหยุ่นมากพอที่ผู้ประกอบการรายเล็ก ๆ จะทำได้
คิดว่า e-commerce ก็ผุดกันเป็นดอกเห็ดและเป็นที่ยอมรับในปัจจุบันแล้ว ต่อไป e-loan ก็คงผุดกันเป็นดอกเห็ดและเป็นที่ยอมรับเช่นกัน
ผมว่านะ ถึงตอนนั้นคงจะเกิดเว็บไซต์สองประเภทแน่ ๆ เลย คือประเภทแรกเหมือนกับ ebay ที่เป็นเว็บไซต์เพื่อบริการให้ผู้ปล่อยกู้กับผู้ที่ต้องการกู้มาเจอกัน แล้วตัวเว็บไซต์ก็คิดค่าธรรมเนียมการให้บริการไปตามอัตราที่ควรจะเป็น
กับอีกประเภทนึงคือเว็บไซต์ที่เปิดขึ้นเพื่อทำตัวเป็นเจ้าพ่อปล่อยกู้ซะเองเลย โดยมีบริการปล่อยกู้ให้เลือกหลายแบบ มีดอกเบี้ยทบต้นให้เลือกหลายประเภท และมีวิธีการทวงหนี้ให้เลือกทั้งแบบนุ่มนิ่มหรือจะโหดเหี้ยมอย่างที่ลูกหนี้ต้องการ
เงินด่วนออนไลน์ หรือ เงินกู้ออนไลน์ น่าจะเป็นช่องทางนึงในการใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตในวันข้างหน้าแหงม ๆ เลยครับ
[tags]เงินด่วน, เงินกู้, ออนไลน์, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, สมมติฐาน[/tags]
ผมก็หลังจากที่ศึกษาเรื่อง Hoax ต่างๆ ผมก็เริ่มมาดูการโฆษณาหรือพวกหาเงินผ่านเน็ต อะไรพวกนี้
ศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเกิดในประเทศไทย
(แต่ส่วนใหญ่ในไทยก็มีแต่ Affiliate Program แฮะ)
ส่วนเงินกู้ออนไลน์คงต้องมี “หลักประกันที่มั่นคงออนไลน์”ในไทยก่อนครับ์์
ไม่งั้นเป็นผมก็คงไม่ปล่อยกู้หรอก
ว่าไปเรื่องเงิน ผมก็เพิ่งสมัคร Paypal แฮะ กะว่าเอาไว้ซื้อการ์ดยูกิ 55+
ในอนาคตต้องมีแน่ๆ..ต่อมาก็จะมีปัญหา..แล้วก็ค่อยออกกฏหมายแก้ปัญหาตาม
ผมว่าทำแบบ offline ก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้วครับ
เพิ่งสมัคร paypal เหรอครับคุณ RedCaP แสดงว่าคุณ RedCap ยังเป็นพวก teen age อ่ะดิ ^-^
นั่นสิคุณ ixiu เห็นแค่แบบ offline ก็หนีหนี้กันจะแย่อยู่แล้ว