มนุษย์เรามักจะมีความภูมิใจในตัวเองครับ ยิ่งถ้าคิดในสิ่งที่ใคร ๆ ก็คิดไม่ได้, รู้ในสิ่งที่มีเพียงตนเองเท่านั้นที่รู้ หรือทำอะไรที่คนอื่นทำไม่ได้หรือมีน้อยคนนักที่ทำได้ ก็จะยิ่งภูมิใจเข้าไปใหญ่ อันนี้น่าจะเป็นความจริงทางธรรมชาติ
การที่เรามีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ หรือมีทักษะในการปฏิบัติการทางคอมพิวเตอร์ ก็จะทำให้เรามีความภาคภูมิใจใช่มั้ยครับ?
ทุกวันนี้เรายังไม่มีแบบทดสอบวัดความรู้ทางคอมพิวเตอร์กลาง ๆ นะ ที่จะวัดได้ว่าเรานั้นมีความรู้ทางคอมพิวเตอร์แค่ไหนกันแน่ เหมือนกับที่เดี๋ยวนี้มีบริการทางเว็บตั้งมากมาย ที่ให้เราเข้าไปตอบแบบสอบถามเพื่อวัดไอคิวของเราได้
ความภาคภูมิใจในความรู้ทางคอมพิวเตอร์ ถ้าเอาไปใช้ในทางที่ผิดก็จะไม่ดี ผมขอยกตัวอย่างจากสิ่งที่ตัวเองพบก็แล้วกันนะ มันไม่มีอะไรที่แน่นอนเพราะเป็นความเห็นส่วนตัว คือผมมักจะพบกับเกรียนทางคอมพิวเตอร์มากมาย พวกเขาแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ด้วยกันนั่นก็คือ
1. รู้จริง, คิดเองได้, ทำได้จริง แต่มารยาทไม่ดีี
คนเหล่านี้น่าเห็นใจมากเลยครับ เพราะยังไม่สามารถที่จะปรับปรุงปัญญาเชิงอารมณ์ของตนเองได้ ไม่รู้จักการให้อภัยทาน จึงไม่เคยให้อภัยกับคนที่สำแดงความรู้ที่เป็นเท็จ ไม่ให้อภัยกับคนที่คิดเองไม่ได้ และไม่ให้อภัยกับคนที่ทำอะไรผิดพลาด
ถ้าพบใครที่สำแดงความรู้ทางคอมพิวเตอร์ที่ผิดพลาดเมื่อไหร่ คนพวกนี้จะแสดงตนเป็นเทพเกรียน ตำหนิติเตียนความรู้ไม่เท่าของคนที่รู้ไม่จริงโดยไม่ต้องให้สั่ง ทำไปโดยกลไกอัตโนมัติของแกนสมอง ซึ่งบางคนก็ยังดีที่เมื่อตำหนิจนหนำใจแล้ว จึงค่อยคายความจริงออกมา ว่าความจริงแล้วนั้นจะต้องเป็นยังไง
แต่บางคนแย่หน่อย เพราะหลังจากเทพเกรียนเข้าร่างทรงแล้วตำหนิเรียบร้อยแล้ว พอร่างทรงออกกลับลืมบอกไปว่าความรู้อันเป็นจริงนั้นเป็นยังไงกันแน่
2. ไม่รู้จริง, คิดเองไม่ได้, ทำไม่ได้ แต่มารยาทไม่ดี (หมั่นไส้)
คนเหล่านี้ยิ่งน่าเห็นใจเข้าไปใหญ่ครับ เพราะไม่ใช่เทพเกรียนเข้าร่างแต่เป็นอสูรเกรียนเข้าร่างครับ อันนี้หนักกว่าประเภทแรกเยอะ คงไม่ต้องให้อธิบาย เพราะนอกจากตัวเองจะรู้ไม่จริงแล้ว ยังตำหนิคนที่อาจจะรู้จริงอีกต่างหาก
…
ผมเคยมีผู้ร่วมงานทั้ง 2 แบบเลยนะครับ แล้วทราบมั้ยครับว่าคนเหล่านี้เมื่อเข้ามาปะปนทำงานกับเรา แล้วพอวันดีคืนดีเทพเกรียนหรืออสูรเกรียนเข้าร่างคนพวกนี้ แล้วระดับนโยบายเค้าจะทำยังไง?
หุ หุ เค้าไม่มาทนหรอกครับ เขาให้ออกหรือเลิกต่อสัญญาเลย เพราะเขาไม่มีเวลาว่างพอที่จะมาแก้ไขคนเหล่านี้ได้ครับ
ผมเคยแจ้งกับระดับนโยบายนะ ว่าผมพอจะหาหนทางที่จะปราบเกรียนพวกนี้ได้ แต่ระดับนโยบายแจ้งกับผมว่า ถ้าผมต้องให้คุณเสียเวลาไปจัดการกับคนพวกนี้ สู้ผมให้เขาออกไปแล้วหาคนใหม่มาให้คุณจัดการที่มันง่ายกว่า จะเป็นเรื่องที่ดีต่อการผลิตและการบริการของเรามากกว่านะ
เกรียนคอมพิวเตอร์มีแต่คอมพิวเตอร์ที่คบด้วยครับ คนทั่วไปเขาคบด้วยไม่ไหวหรอกเพราะเทพเหลือเกิน
[tags]เกรียน,คอมพิวเตอร์,การจัดการ,ความภาคภูมิใจ,ภาคภูมิใจ[/tags]
ผมว่า แบบที่สองนี่แย่สุดอ่ะนะครับ แ่ต่ถ้าเป็นไปได้ ไม่เจอสองแบบดีกว่า เก่งแต่มารยาทไม่ดี ก็ไม่น่าคุยอ่ะครับ
สภาวะดังกล่าวรักษาไม่หายครับ ต้องหลีกเลี่ยงอย่างเดียว
(คล้ายกับ อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ ครับ)
ล่าสุดผมได้ออนไลน์คุยกับเพื่อน บังเอิญมีผู้ไม่ได้รับเชิญ
ได้เข้ามาแสดงวาจาเชิงดังกล่าว และยังบอกด้วยว่าตนเองอายุ21ปี!!
ผมคิดว่า อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ
อ่อ ผมไม่นิยมคำว่า”เกรียน”หรือ”เทพ”นะครับ เพราะคาดว่าจะเป็น
“การใช้ภาษาไทยวิบัติ”ก็เป็นได้
ทุกคนต่างมีเหตุผลที่เป็นอย่างนั้นครับผมว่า ผมมีรุ่นพี่คนหนึ่งเค้าเข้าขั้นในเทพกลุ่มที่สอง จากที่พิจารณาเเล้วผมคิดว่าที่เค้าเป็นเช่นนั้นเพราะ
1. อันไหนไม่รู้เค้าจะถามรุ่นน้องครับ แต่ถ้าถามครั้งเเรกไม่เข้าใจ ก้อจะทำเหมือนเข้าใจเเล้ว เข้าใจว่ากลัวเสียฟอร์ม หรือ คิดว่ารุ่นน้องอาจจะรำคาญเค้าได้เลยทำเป็นเข้าใจไปซะงั้น เเล้วกลับไปดูเอง ซึ่งพอกลับไปดูเองก้อเข้าใจผิดไปอีก แต่คิดว่าที่ตัวเองเข้าใจอะถูกเเล้ว
2. พอมีคนถามเค้าๆก้อจะพูดเหมือนมีหลักการโชว์เทพว่างั้นเเต่ที่พูดมา จริงบ้างเท็จบ้างทำให้ผู้ฟังถูกเชื้อไวรัสเทพของผู้พูดแพร่ไปอีก
ตรงนี้เป็นจุดเริ่มที่จะกลายพันธุ์เป็นเหมือนดังอสูรเทพของพี่ไท้กระมั่ง
ส่วนเรื่องภาษาที่คุณ Redcap บอกจะพยายามครับ
ภาษาอังกฤษยังวิบัติได้เลย ผมว่าภาษาไทยคงหนีการพัฒนาไปเรื่อยๆตามกาลเวลาไม่พ้นหรอกครับ อยู่ที่ว่าจะพัฒนาไปในทางใด
เกรียนกับเทพนั้นก็เป็นภาษาไทยอยู่แล้วนิครับ แต่ความหมายดั้งเดิมที่สื่อถึงกับปัจจุบันนั้น มันเปลี่ยนไป
เ้กรียนในความหมายที่ 1 ชอบโชว์พาวครับ อาการหนัก :/
เกรียนในความหมายที่ 2 ชอบโชว์กึ๋น เปลี่ยนความไม่รู้หรือหมั่นใส้นั้น เป็นวาจากระแทกแดกดัน อาการร่อแร่ 😮
ลำพังผมก็ไม่ค่อยจะลงรอยกลับสองกลุ่มนี้หรอกครับ และก็ไม่อยากจุ้นด้วย ถ้ามาคุยกับผมแบบนี้ ผมคงเดินหนีไปตั้งแต่ยังไม่ตอบล่ะมั้ง
แหะๆแวะมาเยี่ยมยาม 🙂
ผมกลับเท่าคำว่า เกรียน นะครับ . .5 5
เกรียนเทพ
กับ
เกรียนนรก
“เกรียน” มีความหมายไม่ได้ไปในทางดีอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอครับ
ตาม http://th.uncyclopedia.info/wiki/เกรียน
quote จากเว็บข้างบน:
เกรียน มักจะมีความเชื่อมั่นตัวเองสูงในจินตนาการ แต่ปฏิบัติตัวตรงกันข้าม
เกรียน มักจะมีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ และควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้
กลุ่มเกรียนคือกลุ่มคนที่มี IQ และ EQ ต่ำ เนื่องจากไม่ค่อยชอบใช้ความคิด ชอบใช้แต่อารมณ์
เกรียนบางส่วนจะมีความสุขไปกับการด่าคนแบบไร้เหตุผล และไร้ขีดจำกัด
ดังนั้น ผมเห็นด้วยว่าเราต้องเห็นใจ เพราะเค้าเริ่มเข้าใกล้ อาการป่วยทางจิต เข้าไปทีละน้อยๆ แล้วครับ
นานมาแล้วผมเจอมาเหมือนกันครับ
เก่งไม่ว่า แต่ดูชอบถูกกันนี่ซิ แหม่…
ช่วงนี้ดูท่าพี่ไท้คงไม่ค่อยว่างนะครับ
งานยุ่งหรอครับ เป็นกำลังใจช่วยนะครับ
พี่ช่วยพวกผมมีอะไรที่มีสาระได้ทำกันก่อนนอนทุกวันเลย
สู้ๆๆคับพี่
ที่ทำงานมีอยู่คนนึงค่ะ ทำ project เดียวกันซะด้วย ลูกค้าถามอะไรนิดหน่อย จะเกรียนลงทันที (ทั้งๆ ที่แก่ขนาดมีลูกหัวเกรียนแล้วนะ) กว่าจะหายเกรียนได้ นู่นล่อไปครึ่งวัน
รอวัน management เห็นใจ ส่งท่านไปเกรียนที่อื่นจริงๆ
นั่นน่ะสิครับคุณ pete
สภาวะดังกล่าวรักษาไม่ได้จริง ๆ ครับคุณ RedCaP ไม่ว่าจะด้วยจิตแพทย์หรือพระก็ตาม T-T
เป็นทั้งอสูรทั้งเทพเลยเหรอคุณ bin ^-^ เหมือนแปดเทพอสูรมังกรฟ้าเลยนะเนี่ย
ผมก็หนีเก่งคับคุณเดย์ เจอมาถ้าไม่หนีก็นิ่งครับ
555 ขำคำว่า “เกรียนนรก” อ่ะคุณ Stamp เลยเห็นมีคนเขียนไว้ในบอร์ดเหมือนกัน
งั้นเราต้องส่งพวกนี้ไปพบจิตแพทย์แล้วล่ะครับคุณกล้า อิ อิ ^o^
แหม่ … มันน่าโดดจูบใช่มั้ยครับคุณ tatump ^-^
ผมงานหลวงไม่ยุ่งครับ ยุ่งแต่งานราษฎร์ เพราะตรุษจีนมันต้องมีธุระเยอะอ่ะครับคุณ bin
ยุให้ส่งไปอยู่ในวงโคจรโลกเลยครับคุณ aoyoyo อิ อิ
ผมเคยเจอเทพเกรียนกับอสูรเกรียนฉะกันเองด้วยครับ มันส์ดี ให้มิติใหม่แก่วงการคอมพิวเตอร์ด้วยครับ
เมื่อ เกรียนอยากเป็น greek ก็เลยต้องทำตัวแบบ greek มังครับ
เพื่อจะได้เป็น greek ในมุมมองคนอื่นๆ ที่ไม่รู้
ส่วนผมตอนนี้ไม่รู้เป็นเกรียนประเภทไหน ดี เพราะความสามารถยังไม่ถึงขั้น greek
ปล. เทพเกรียนก็ยังดีกว่า greek ที่รู้อะไรแต่ไม่ยอมบอกอะไร พอสุดท้ายก็พูด “กูว่าแล้ว” ทุกที่ที่ทำพลาด