ส้วมไฮเทคไม่ใช่มีไว้ใช้ขี้เท่านั้น!!!

สำหรับมนุษยชาติแล้ว ถึงแม้จะดิ้นรนขวนขวายไขว่คว้าหาวัตถุมาปรนเปรอตัวตนยังไงก็ตาม ยังไงซะก็หนีไม่พ้นที่จะมีวิถีชีวิตพื้นฐานเหมือน ๆ กันนั่นก็คือ กิน, ขี้, ปี้ และ นอน

การกินกับการนอนถือเป็นเรื่องที่เปิดเผยกันได้ ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายอะไร แต่การปี้และการขี้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีการเปิดเผยกันมากนัก ถึงปัจจุบันนี้การปี้จะเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง โดยเห็นได้จากการที่นักแสดงนักร้อง ต่างพาเหรดกันเปิดเผยเรื่องปี้ของตนเองออกมาในรูปของคลิปวีดีโอกันเป็นว่าเล่น!!!

ดังนั้นพอถึงสุดท้ายแล้ว การขี้ก็ยังคงเป็นเรื่องที่ยังถูกปิดบังอยู่ต่อไป เพราะมันเป็นเรื่องที่ชวนแหวะที่สุด หากเอามานั่งบรรยายกันเป็นวรรคเป็นเวรให้อ่านกัน

แต่เนื่องจากผมจะโม้เรื่องส้วมไฮเทค ซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์อันทรงพลานุภาพ ที่จะทำให้เราขี้กันได้อย่างสงบสุขที่สุด ก็เลยหนีไม่พ้นที่ผมจะต้องเล่าเรื่องขี้ให้อ่านกัน (ทน ๆ กันหน่อย)

ภาพข้างบนอธิบายขี้ของมนุษย์เรา จะเห็นว่าถ้าเราขี้ออกมาเป็นแบบที่ 1 และ 2 นั่นแสดงว่าเรา “ท้องผูก” ซะแล้ว ควรจะดื่มน้ำให้เยอะหน่อย แล้วก็อย่านอนดึกด้วย แต่ถ้าเราขี้ออกมาได้้แบบที่ 3 และ 4 ก็ถือว่าเราโชคดีแล้ว เพราะมันเป็นรูปแบบของขี้ในอุดมคติเชียวแหล่ะ และสุดท้ายถ้าขี้ออกมาเหมือนกับแบบที่ 5 ถึง 7 นั่นแสดงว่าคุณกำลังป่วยซะแล้วล่ะ ต้องมีการติดเชื้อในทางเดินอาหารแหง ๆ ควรพบแพทย์ด่วน!!!

ถ้ามนุษย์เราเป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตทั่วไป เราก็คงจะเที่ยวขี่เรี่ยราดที่ไหนก็ได้ตามใจชอบ แต่บังเอิญว่าอารยธรรมของมนุษย์นั้นเจริญก้าวหน้า ดังนั้นมนุษย์เราจึงจำเป็นต้องขี้ใน “ส้วม” ที่จัดไว้ให้ เพื่อสุขลักษณะที่ดีกับตนเองและผู้อื่น!!!

วิวัฒนาการของส้วมเองก็มีมาอย่างยาวนาน จนกระทั่งปัจจุบันนี้พวกเราคุ้นชินกับการนั่งขี้กันบนชักโครก แล้วใช้สายชำระฉีดก้นให้สะอาด จากนั้นจึงใช้กระดาษทิชชู่เช็ดให้แห้ง เป็นอันเสร็จกิจธุระ

แต่คิดเหรอว่าส้วมจะทำหน้าที่ของมันแค่เพียงเท่านั้น ไม่อ่ะ มันต้องให้ความจรรโลงใจมากกว่านั้น งั้นมาลองอ่านนิยายวิทยาศาสตร์ที่ผมแต่งขึ้นดีกว่านะ ว่าจินตนาการของส้วมไฮเทคนั้นควรเป็นยังไงบ้าง 😛

เผลอแป๊บเดียวก็ผ่านมา 10 ปีแล้ว ผมเองก็อ้วนขึ้นแล้วก็หัวล้านมากขึ้นด้วย ทุกอย่างดูเปลี่ยนไปแต่ผมก็ยังคงต้องขี้ทุกวันเหมือนเดิม วันนี้ก็เช่นเดียวกัน ผมตื่นเช้าขึ้นมาเพราะปวดท้องขี้ แต่ผมก็ไม่รู้สึกว่ามันลำบากอีกต่อไป เพราะในส้วมที่บ้านผมติดตั้งโถส้วมไฮเทคเอาไว้แล้ว

เมื่อ 10 ปีก่อนผมได้ยินข่าวว่าญี่ปุ่นผลิตส้วมไฮเทคได้ ผมยังคิดอยู่เลยว่ามันบ้าหรือเปล่า แต่กลับกลายเป็นว่าให้หลังแค่ 2 – 3 ปี ส้วมไฮเทคก็ได้รับการนำเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งตอนแรกก็ยังราคาแพงอยู่ ก็เลยขายให้แต่คนรวย ๆ หรือไม่ก็โรงแรมระดับหลาย ๆ ดาว ส่วนชาวบ้านธรรมดาก็ยังคงใช้โถส้วมชักโครกแบบปรกติต่อไป

จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วนี่เอง ที่ทางบริษัทผู้ผลิตสามารถคิดค้นวิธีการลดต้นทุนการผลิตได้ จึงทำให้ชาวบ้านธรรมดาทั่วไป สามารถที่จะมีโถส้วมไฮเทคไว้ในครอบครอง กลายเป็นว่าการมีส้วมไฮเทคถือเป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาของครอบครัวเลยทีเดียว

ผมเองก็ซื้อมาใช้เหมือนกัน ตอนที่ซื้อมาก็ติดตั้งลำบากหน่อย เพราะผู้รับเหมาเขาเก่งแต่ปูกระเบื้องกับฉาบปูน ส่วนเรื่องคอมพิวเตอร์อิเลกทรอนิกส์อะไรเนี่ย เขาแบ๊ะ ๆ เขาก็เลยต่อรองว่าเขาจะเป็นผู้ติดตั้งลงพื้นให้ ส่วนการปรับแต่งให้เป็นเรื่องของผมก็แล้วกัน

โชคดีที่มีคู่มือมาด้วย ผมก็เลยเรียนรู้ว่าจะต้องใช้ยังไงบ้าง และเมื่ออ่านคู่มือก็พบว่าโถส้วมไฮเทครุ่นใหม่นั้น มันมีคุณลักษณะเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนที่ผมคิดเอาไว้เยอะเลย เ้พราะนอกจากมันจะมีระบบชำระอัตโนมัติแล้ว ผมก็ยังได้รู้ว่ามันเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่สามารถจะต่อเชื่อมเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านเครือข่ายไร้สายได้อีกต่างหาก

การปรับแต่งไม่ยุ่งยากมากนัก เพราะเขามีเครื่องควบคุมแบบไร้สายให้มาด้วย โดยมันมีลักษณะเหมือนกับโน๊ตบุ๊กขนาดเล็กและมี GUI ที่สวยงาม ผมใช้เวลาไม่นานนัก ก็สามารถเชื่อมมันเข้ากับ ADSL Router แบบไร้สายซึ่งตั้งอยู่บนชั้นสองของบ้านได้ ตอนนี้มันมี IP แล้วแถมเชื่อมกับอินเทอร์เน็ตได้อีกต่างหาก!!!

หน้าจอแสดงผลขึ้นมากล่าวยินดีต้อนรับ พร้อมทั้งแจ้งด้วยว่าโถส้วมจะยังไม่สามารถใช้ได้อย่างสมบูรณ์ หากผมไม่ลงทะเบียนและใส่เลข S/N ที่ถูกต้อง เพื่อแสดงว่าผมเป็นผู้ซื้อที่แท้จริง ผมก็เลยใส่ ๆ ให้ครบ ๆ

ทางบริษัทแจ้งว่าโถส้วมรุ่นที่ผมซื้อไปนั้น มีการติดตั้ง Firmware อยู่ก่อนแล้ว แต่เนื่องจาก Firmware รุ่นดังกล่าวมีจุดผิดพลาด ดังนั้นผมจึงจำเป็นที่จะต้องดาวน์โหลด Firmware ใหม่มาลง หากอยากให้โถส้วมทำงานได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่รวน

โถส้วมที่ผมซื้อมานั้นเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งบริษัทเพิ่งจะวางจำหน่ายได้ไม่นานนัก ผมชอบมันมาก เพราะนอกจากมันจะคุณลักษณะเดิม ๆ ของเมื่อ 10 ปีก่อน คือสามารถตรวจวัดความดันโลหิต, วัดน้ำตาลในเลือด และตรวจจังหวะชีพจรได้แล้ว มันยังสามารถวิเคราะห์ขี้ให้ผมได้ด้วย

โดยในคู่มือบอกไว้ว่า เมื่อผมขี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว มันจะสุ่มตรวจชิ้นขี้และสารละลายขี้ของผม จากนั้นก็จะสังเคราะห์ข้อมูล สร้างเป็นชุดของข้อมูลที่เป็นมาตรฐาน แล้วส่งข้อมูลเหล่านั้นไปยัง Application Server ของบริษัทผู้ผลิตโถส้วม เพื่อเอาไปวิเคราะห์ในขั้นตอนสุดท้ายอีกครั้ง

ดังนั้นเมื่อผมล็อกอินเข้าไปในเว็บไซต์ของบริษัทผู้ผลิตโถส้วม ผมก็จะสามารถสืบค้นผลการวิเคราะห์ได้ทันที ว่าผมนั้นมีความเสี่ยงต่อโรคใดบ้าง, ผมมีการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารหรือไม่ และผมควรปรับกิจวัตรประจำวันรวมทั้งอาหารการกินยังไง ถึงจะเหมาะสมต่อตัวผมมากที่สุด

ผมเองค่อนข้างให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคล แต่ก็เพราะทนถูกรบเร้าจากบริษัทผู้ผลิตโถส้วมไม่ไหว เพราะเขาบอกว่าถ้าผมยอมเซ็นลายเซ็นดิจิทัล เพื่อยินยอมให้เขาเอาข้อมูลส่วนบุคคลของผมไปใช้ได้ เขาจะไม่คิดค่าบริการซ่อมบำรุงรวมทั้งค่าอะไหล่ใด ๆ ทั้งสิ้น

ความโลภมันบังตา ผมก็เลยยอม ๆ เขาไป สุดท้ายผมถึงได้รู้ว่าเขาเอาข้อมูลขี้ของผม ออนไลน์ไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ด้วย พวกโรงพยาบาลเอกชนเลยติดต่อให้ผมไปตรวจสุขภาพกันใหญ่ เพราะเขามีหลักฐานข้อมูลว่าผมมีความเสี่ยงต่อโรคใด ๆ บ้าง

แต่ยังไงซะ ตอนนี้ผมก็รู้สึกว่าผมมีความสุขกับการขี้มากขึ้นเยอะเลย เพราะสิ่งพิเศษที่สุดที่โถส้วมรุ่นใหม่มีก็คือ หากผมเกิดท้องผูกขี้ไม่ออกขึ้นมา โถส้วมจะฉีดยาถ่ายอย่างอ่อนแต่ออกฤทธิ์ไวให้ผม เพื่อช่วยกระตุ้นให้ผมไม่ต้องทรมานจากอาการท้องผูกซะที ฮ่า มีความสุขจังเลย 😛

และนิยายวิทยาศาสตร์เรื่องขี้ ๆ ก็จบลงเพียงเท่านี้ครับ เอวัง ^-^

[tags]ขี้,ส้วม,ส้วมไฮเทค,โถส้วม[/tags]