ตอนแรกผมคิดว่า “การปฏิวัติสารสนเทศ” หรือ “ประชากรผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้น” จะเป็นตัวทำให้สังคมโลกเราเกิดความสั่นคลอน แต่กลับกลายเป็นว่า “ความผันผวนทางการเงิน” และ “ความแปรปรวนทางภูมิอากาศ” กลับเป็นตัวเร่งให้เกิดความสั่นคลอนแทน
การเกิดวิกฤตมีความหมายกว้างขวางถึงความไม่แน่นอน ความไม่สงบสุข ความโกลาหล ซึ่งหากวิกฤตยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ย่อมจะทำให้ภาพอนาคตที่ “ธุรกิจครองโลก” จะค่อย ๆ เลือนหายไป แล้วเปลี่ยนเป็น “สังคมที่หวาดระแวง” เข้ามาแทนที่!
สังคมที่หวาดระแวงเป็นสังคมที่ภายในชุมชน มีการรวมกลุ่มของปัจเจกบุคคลที่มีอัตลักษณ์เหมือนกัน พวกเขาอาจจะอยู่รวมกันในพื้นที่ที่ใกล้เคียงกัน หรือไม่พวกเขาอาจจะติดต่อกันด้วยระบบสื่อสารเดียวกัน และที่สำคัญ เหตุผลที่พวกเขาต้องอยู่รวมกันก็เพราะศูนย์กลางในด้านต่าง ๆ ได้เกิดการล่มสลาย ดังนั้นจึงไม่สามารถที่จะไว้ใจในความปลอดภัยของตนเองได้อีกต่อไป!!!
พวกเขาจึงต้องรวมกลุ่มสร้างชุมชนของคนที่มีอะไรเหมือน ๆ กัน และไม่ค่อยจะยินดีนักที่จะติดต่อกับชุมชนอื่น ซึ่งชุมชนอื่นเหล่านั้นอาจมีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกับชุมชนของตนเอง
ในสังคมที่หวาดระแวงยังจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันจะเห็นได้ว่านวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สร้างขึ้นนั้น บางครั้งไม่จำเป็นต้องสร้างโดยบริษัทขนาดใหญ่ก็ได้ หากแต่คนเก่ง ๆ เพียงสี่ห้าคนร่วมด้วยช่วยกัน ก็สามารถจะตั้งไข่ขึ้นมาได้แล้ว และที่สำคัญ หลาย ๆ นวัตกรรมที่สร้างขึ้นไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกำไรและขาดทุน!!! แปลว่าไม่มีใครจ้างหรือไม่มีเงินก็สามารถทำขึ้นมาได้!!!
หากว่า “สังคมที่หวาดระแวง” จะเกิดขึ้นจริง ถึงตอนนั้นเราคงจะได้มีโอกาสเห็นเงินตราเสริมในชุมชนแต่ล่ะชุมชน โดยที่เงินตราเสริมเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในรูปของธนบัตรหรือเหรียญกษาปน์ หากแต่อยู่ในรูปของสารสนเทศในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์แทน!
ถ้าอยากรู้ว่า “สังคมที่หวาดระแวง” เป็นแบบไหน ให้อ่านประวัติศาสตร์ในช่วงที่อาณาจักรโรมันล่มสลาย เพราะช่วงเวลาดังกล่าวเป็นรูปแบบของ “สังคมที่หวาดระแวง” อย่างแท้จริง!!!
[tags]วิกฤต,การเงิน,สังคม,หวาดระแวง,คอมพิวเตอร์,เครือข่าย,เงินตราเสริม[/tags]
มันก็เป็นยังงี้มาตลอด ตั้งแต่โบราณกาลแล้วนิ
โอ้!?!
งงว่ะ พี่ไท้จะชวนพวกผมสร้าง ชุมชนหวาดระแวงป่าวนี่ ผมว่า สันติอโศกนี่ก็อาจจัดเป็น ชุนชนหวาดระแวงได้นะ สำหรับผมอยากเห็น ชุมชน นักประดิษฐ์ มากกว่า คือเป็นชุมชนที่มีนักประดิษฐ์ที่เก่งๆในด้าน ทำเพื่อเงิน แต่มีความสุขที่จะเอาผลกำไรมาให้ พวกเก่งๆ ที่ทำเพื่อเกรี๋ยน
ใช่คุณ 7 แล้วคราวนี้ก็มาเกิดในยุคเราพอดี T-T
โอ้ด้วยคนครับคุณเน็ต อิ อิ 😛
ป่าวอ่ะคุณ higgsman แค่เล่าให้อ่านเฉย ๆ อือม ผมก็รู้จักสันติอโศกนะ พวกนั้นเขาตั้งตนโดยไม่เบียดเบียนสิ่งใด ๆ เลยแฮะ เก่งจัง
แล้วผมจะไปหาอ่านประวัติศาสตร์ในช่วงที่อาณาจักรโรมันล่มสลาย ได้จากไหนครับเนีั่ย T_T