สมัยก่อนนู้นเวลาผู้บังคับบัญชาใช้ผม เขามักจะเอื้อนเอ่ยประโยคที่ผมฟังแล้วขัดหูเหลือเกิน
คุณไท้ผมมีงานชิ้นนึงจะให้คุณทำ เป็นการสร้างซอฟต์แวร์เพื่อบรา บรา บรา … ผมว่ามันไม่ยากหรอก แป๊ปเดียวก็เสร็จ มีอะไรให้ช่วยก็บอก
ผมฟังแล้วหัวเราะหึ ๆ ในใจ ที่ว่ามันไม่ยาก รู้หรือเปล่าว่ามันต้องทำยังไง ไม่รู้อ่ะดิ (แต่ผมก็ทำนะ)
เดี๋ยวนี้ผมต้องเอื้อนเอ่ยประโยคเพื่อขอให้ผู้ร่วมงานทำงานให้ ผมจึงยังจำได้ว่าประโยคแบบไหนที่ผมฟังแล้วไม่ลื่นหู ดังนั้นผู้ร่วมงานผมฟังแล้วก็คงไม่ลื่นหูเหมือนกัน ผมจึงเปลี่ยนคำพูดเป็น
คุณกอผมมีงานชิ้นนึงจะให้คุณทำ เป็นการสร้างซอฟต์แวร์เพื่อบรา บรา บรา … ผมมองแล้วมันเป็นงานที่ยากนะ ไม่ใช่ทำได้ง่าย ๆ หรอก แต่องค์กรของเราจ้างคนเก่ง ๆ มาก็เพื่อมาแก้ปัญหายาก ๆ อยู่แล้ว ผมจึงมอบงานชิ้นนี้ให้คุณทำ อีกอย่าง ผมไม่สามารถช่วยคุณได้นะ แต่ผมสามารถทำให้ใคร ๆ มาช่วยคุณได้ คุณทำงานไปไม่ต้องห่วงแล้วกัน ผมจะซัพพอร์ตคุณเอง
แบบนี้น่าจะฟังดูดีกว่านะ 😛
[tags]การจัดการ,การสร้างซอฟต์แวร์,คอมพิวเตอร์,ซอฟต์แวร์,กำลังพล[/tags]
อย่างหลังนี้เหมือนอาจารย์ที่ปรึกษาโปรเจ็คผมเลยครับ
เพราะผมไม่ได้ทำด้านที่อาจารย์เค้าถนัด แต่ท่านก็ช่วยเหลือดีครับ
ซัพพอร์ตทุกอย่างๆ อย่างไหนที่ท่านไม่รู้ท่านก็จะหาคนที่รู้มาช่วย “อย่างน้อยเค้าก็คงเกรงใจผมบ้าง” เหตผลนี้แหละทำให้ผมได้ที่ปรึกษาหลายๆคน
อยากได้เจ้านายเหมือนพี่ไท้จัง
เจ้านายผมแกจะรู้ทุกเรื่อง รู้มากกว่าผมอีก แล้วก็ใช้ผมทำ แล้วก็บ่นๆ แล้วก็….
ชักนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ฮือๆๆๆ
คนประเภทแรก คมเจอบ่อยครับ ไม่รู้ว่าทำไม ถ้าไม่ยาก ทำไมไม่ทำเอง คือประมาณว่า เค้าก็ทำได้ และทำได้เร็วด้วย แต่ ไม่ทำ ถ้างานออกมาดีคนพวกนี้ก็ชมนะ แต่ถ้างานออกมาไม่ดี คนพวกนี้ทับคุณตายเลย ยากที่จะฟังเหตุผลจากเรา ส่วนคนประเภทืั้ สอง ตั้งแต่ผมเขียน code มาเกือบ 10 ปี ยังไม่เคยเจอเลย เอ้….. หรือว่าไม่เกิดในไทยครับ หรือผมโชคร้าย 🙂
พี่ไท้คะ อย่างที่พี่ไท้ทำ เค้าเรียกเปลือกรึเปล่า เคยไปอบรมเรื่องจิตวิทยา เค้าบอกว่ามนุษย์เรามีทั้งเปลือกและแก่น ถ้าเราอยู่สภาพจิตใจดี ไม่มีอะไรกดดัน เราก็จะครองเปลือกอยู่ได้ เช่น สามารถพูดจาดีๆ ยาวๆ ให้กำลังใจลูกน้อง แต่ถ้าเราเองก็อยู่ในสภาวะกดดันเช่นกัน เราก็จะสลัดเปลือกทิ้ง เหลือแต่แก่นที่เป็นตัวตนของเราจริงๆ อาจจะกลายเป็นพูดห้วนๆ สั้นๆ “เอ้า มีงานชิ้นนึงให้ทำ ศุกร์หน้าให้เสร็จนะ”
ทั้งนี้ทั้งนั้น เจ้านายบางคนก็ไม่มีเปลือกค่ะ มีแต่แก่น เพราะไม่เคยคิดเรื่องนี้ เจ้านายบางคนก็สติจิตใจดีเสียจนไม่มีใครจะทำให้เปลือกแกหลุดได้ จึงพูดจาหวานหูลูกน้องได้ตลอดเวลา แต่เจ้านายบางคนก็เหมือนเราๆ นี่แหล่ะ วันไหนถูกกดดันมากก็หลุด เผลอมาใส่กับเรา
เจ้านายก็เป็นคนค่ะ ผิดพลาดกันได้
อืม…แน่นอนคำพูดหวานๆใครก็ชอบ
แต่ถ้าพูดหวาน แต่ในใจคิดขม สักวันก็จะหลุดครับ
ผมเคยเห็นเจ้านายหลายคนหลุดคำพูดจนแก้ตัวแทบจะไม่ทัน
ดังนั้นผมว่าคงต้องเริ่มจากการคิดหวาน ครับแล้วคำพูดหวานๆจะดูจริงใจเอง…
กลับมาเรื่องการพูด motivate นั้น ผมมองว่าต้องเป็น Speak the right words to the right man
จากตัวอย่างข้างต้นของคุณไท้ หาก Programmer เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง อาจจะไม่ชอบ และตีความไปว่าคุณไม่ไว้ใจเขา และเตรียมหาคนมา replace ได้ในกรณีที่คุณ fail
ผมเคยเจอคนแบบนี้ในองค์กรที่มีการแข่งขันสูงๆมาแล้ว
ดังนั้น ยาหอม เป็นสิ่งที่ดี แต่ให้ยึดความจริงใจ และระลึกอยู่เสมอว่า ไม่มี universal words ใด ใช้ได้กับทุกคน แต่ละคนก็มีการ motivate แต่ที่ต่างกันไป
เขาเรียกว่า ใช้คำพูดให้เป็น ถ้าจะใช้ไหว้วานใคร แล้วเขาจะเต็มใจทำงานให้คุณเองแหละ
ทุกท่าน – มันจึงถูกเรียกว่า “ยาหอม” ยังไงครับ “ยาหอม” เป็นยาบรรเทา จะรักษาได้ไม่ได้ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพของคน ๆ นั้นนั่นเอง
แต่เจ้านายผม “เกรียน” ครับ พูดหวานไม่หวานไม่รู้ แต่เวลาสั่งงานไม่ค่อยจะบอกวันส่ง ให้ไปคิดกันเอาเอง – -“
“ผมจะซัพพอร์ตคุณเอง” กับ “มีอะไรให้ช่วยก็บอก” มันก็คือๆกันนะพี่ไท้ 🙂
โอ้ว เจ้านายมี “เกรียน” ด้วยเหรอครับคุณ xinexo เห็นส่วนใหญ่จะไม่ “เกรียน” นะ ส่วนใหญ่จะสองแสน สามแสนอ่ะครับ ขาดอีกเจ็ดแสน แปดแสน ก็ “ล้าน” แล้ว ไม่ “เกรียน” แน่นอน 555+ เล่นคำ
ผมโม้อ่ะครับคุณ fatro ดิ้นเป็นปลาไหลเลยล่ะ อิ อิ
ปุ๊!! ชอบที่คุณพูดนะ..ชอบๆ น่ารักดี ^_^