เคยอ่านหนังสือชื่อเงินสี่ด้านมั้ยครับ มันถูกพิมพ์ออกวางจำหน่ายเมื่อปี พ.ศ. 2544 แล้วก็เช่นเคย คือกว่าผมจะรู้ว่าหนังสือเล่มนี้มันดัง ก็ผ่านไปสองปีแล้ว เหอ ๆ ทั้งปี ไม่เคยรู้อะไรก่อนคนอื่นเลย
หนังสือเล่มนี้อธิบายแหล่งรายได้ที่คนเราจะหาได้ อธิบายไปอธิบายมาเขาก็สรุปว่าถึงสุดท้ายแล้ว มนุษย์อย่างพวกเรามีหนทางเพียงแค่ 4 หนทางเท่านั้น ในการหารายได้เข้ากระเป๋าเราเอง นั่นก็คือ
- E = Employee = เป็นลูกจ้างในระบบธุรกิจ
- S = Self Employed = เป็นคนทำธุรกิจอิสระ ทำงานให้กับระบบธุรกิจของตัวเอง
- B = Business Owner = เป็นเจ้าของกิจการ สร้างระบบธุรกิจขึ้นมา แล้วก็จ้างให้ลูกจ้างมาทำงานในระบบ
- I = Investor = นักลงทุน ใช้ทรัพย์สินที่มีทำงานให้กับตัวเอง
(ปล้นเขากินก็ยังถือว่าเป็น S = Self Employed เลย :-P)
ถ้าเราเอาโมเดลของเงินสี่ด้าน มาทาบเทียบกับแนวทางการหาตังค์ของ geek คอมพิวเตอร์ ก็จะได้ดังภาพข้างล่าง
มันคงเป็นความเป็นจริงที่ว่า ถ้าหากว่าเราคุ้นเคยกับการหารายได้จากแหล่งใดได้อย่างสม่ำเสมอ เราก็จะยึดติดกับแหล่งรายได้ดังกล่าวไว้ ไม่ยอมปล่อยไปไหน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราทำงานเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ แล้วเราก็ได้เงินเดือนเยอะซะด้วย เราก็จะพยายามยึดงานนั้นเอาไว้ พร้อมทั้งสอดส่ายสายตาหางานใหม่ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่าต้องเป็นงานเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่เราถนัด และเป็นลูกจ้างเหมือนที่เป็น เป็นต้น
ยิ่งเสพผลตอบแทนจากด้านใดมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งติดด้านนั้นมากเท่านั้น!!!
โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าธุรกิจที่ผลิตซอฟต์แวร์เพื่อขายนั้น มีค่าการตลาดต่ำมากเลยนะ หรือถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็คือทำแล้วไม่กำไรเท่าไหร่ เผลอ ๆ จะขาดทุนเอาด้วยซ้ำ เพราะซอฟต์แวร์มันทำสำเนาได้ แถมทำการตลาดยากอีกต่างหาก
แล้วพอมันเป็นแบบนี้ นักลงทุนซึ่งอยากจะลงทุนในธุรกิจซอฟต์แวร์ก็เลยแหยง ไม่กล้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของธุรกิจซอฟต์แวร์ซักเท่าไหร่ แย่กันเป็นทอด ๆ เลย
ทางด้านบริษัทซอฟต์แวร์ใหญ่ ๆ เอง ก็หนีไปรับจ้าง customize หรือไม่ก็ implement ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปแพง ๆ ให้กับบริษัทเอกชนขนาดใหญ่หรือองค์กรราชการขนาดใหญ่แทน
ผมกำลังสงสัยนะ ว่าต่อไปธุรกิจซอฟต์แวร์ระดับเล็กจนถึงระดับกลางของเมืองไทย จะหาช่องเพื่อเติบโตขึ้นเป็นบริษัทใหญ่ ๆ ได้ยังไงเหมือนกัน เพราะรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจไทย มันไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยเลย พับผ่าสิ
ป.ล. ถ้าบริษัทเหล่านี้ไม่รีบโตล่ะก็ เด็กจบคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ ๆ คงหางานกันยากขึ้นแหง ๆ เลย
[tags]คอมพิวเตอร์,ซอฟต์แวร์,ธุรกิจซอฟต์แวร์,geek,การจัดการ[/tags]
คนเเรกซะงั้น
ซวยเเล้วสิตูถ้าเป็นอย่างที่พี่ว่าจริง หุหุ
หาเงินจากไหนดีละ เห่อๆๆ
ไอ้เจ้าเงินสี่ด้านเนี่ย ผมก็เพิ่งรู้จักเมื่อสองสามเดือนก่อนนี่เองครับ
เห้อเห็นแบบนี้แล้วเศร้า อนาคตตัวเอง
e-book delphi อัพให้เเล้วนะครับ ที่หัวข้อว่า งานที่โปรเเกรมเมอร์ไม่ชอบทำ ท้ายๆๆอะ เออว่าเเต่โพสอย่างนี้โดนจับไหมอะอิอิ มีกฎหมายข้อนี้ด้วยไหมหว่า? ว่าไปพี่ไท้พูดเรื่องกฎหมายที่นักเล่นเนตชอบทำผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัวบ้างดิ ครับอย่างรู้อิอิ
ปล จริงๆๆไม่อยากโพสนอกเรื่องในคอมเมนเลยมันทำให้เสียสมดุลในการจัดอันดับไป เเต่ไม่รู้จะคุยกับทุกคนได้ที่ไหนเนี้ยนะสิ
^o^ เป็นลูกจ้างไปก่อนก็แล้วกันครับคุณ bin เหมือนผมไง
หุ ๆ คุณ wiennat เชยกว่าผมอีกนะเนี่ย 😛
คนเล่นเน็ตมักจะทำผิดกฎหมายอยู่สองเรื่องใหญ่ ๆ ครับคุณ bin นั่นก็คือการหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา และการหลอกหลวงประชาชนครับ
ส่วนการละเมิดลิขสิทธิ์และการฉ้อโกงประชาชนนั้น ถือว่าเป็นส่วนน้อยครับ