ไม่รู้ว่าผมเคยเล่าไปแล้วหรือยังจำไม่ได้ เอาเป็นว่าเล่าใหม่ก็แล้วกันนะ คือองค์กรที่ผมทำงานอยู่สามารถจะต่อเชื่อมกับกรมการปกครอง เพื่อดึงเอาข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของประชาชนทั้งประเทศมาได้ครับ ไม่ใช่ดึงได้แต่ข้อมูลนะ แม้แต่หน้าตาซึ่งถ่ายไว้ในบัตรประชาชนก็ดึงมาได้ด้วย!!!
แล้วก็บังเอิญว่าทีมซอฟต์แวร์ที่ดูแลเรื่องดังกล่าว ก็เป็นหนึ่งในหลาย ๆ ทีมที่ผมดูแลอยู่ T-T ว่าแต่ทำไมผมต้องดูแลตั้งหลาย ๆ ทีมด้วยวะเนี่ย? (บ่น ๆ)
กรมการปกครองเขาค่อนข้างสนใจในความปลอดภัยของข้อมูลมาก เขากลัวมีคนไปละเมิด เขาก็เลยต้องกำหนดอะไรหลาย ๆ อย่างเป็นกติกา ซึ่งผมคงไม่อธิบายในทางเทคนิคให้อ่านกัน เพราะฟังแล้วเวียนหัวตึ้บมาก ต้องต่อ switching ตัวโน้น, ต้องลง linux server กับ window server, ต้องติดตั้ง package แล้วก็ dynamic link library ที่กรมการปกครองให้มา, ต้องเขียนโปรแกรมเป็น broker เพื่อต่อกับ dynamic link library ดังกล่าว, ต้องกำหนด protocol กับ client ฯลฯ (ไหนบอกจะไม่เล่าทางเทคนิคไง)
จะเห็นว่ากว่าจะออนไลน์ข้อมูลจากภาครัฐมาได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ!!!
ทีนี้มาเข้าประเด็นเรื่องการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนกันดีกว่า คือเรื่องมันมีอยู่ว่าข้อมูลพวกนี้มันเจ๋งมาก เพราะมันบอกอะไรได้หลาย ๆ อย่างเลย โดยรายละเอียดของคน ๆ นึงที่ได้มาก็จะเท่ากับรายละเอียดในบัตรประชาชนบวกกับรายละเอียดในทะเบียนบ้านแบบนั้นแหล่ะ มีรูปถ่ายด้วยนะเอ้อ เจ๋งเลย
พอมันใช้ประโยชน์ได้มากแบบนี้ก็เอาล่ะสิ เหล่าบรรดาผู้ใช้ซึ่งเค้าไม่รู้ว่าทีมซอฟต์แวร์เราเฝ้าเค้าอยู่ ก็แอบค้นข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนที่เขาชื่นชอบ ขอย้ำชื่นชอบ ซึ่งข้อมูลส่วนใหญ่ที่ค้นก็คือข้อมูลของดารานั่นเอง!!!
ความซวยจึงบังเกิดขึ้นครับ เพราะไม่ใช่แค่ทางทีมซอฟต์แวร์ของทางเราเท่านั้น ที่เฝ้าอยู่แล้วรู้ว่ามีการละเมิดข้อมูล ทางกรมการปกครองเองเขาก็มีคนเฝ้าอยู่ด้วยเช่นกัน แล้วเขาก็เร็วซะด้วย เพราะไม่ทันที่ทางเราจะเงื้อทำอะไร ทางเขาก็แจ้งมาทันทีว่ามีการค้นข้อมูลด้วยความถี่ที่เป็นปรกติ ไม่ได้ spam แต่ประการใด แต่ทว่าข้อมูลที่ค้นไปนั้น ดูแล้วไม่น่าจะเอาไปใช้งานตามที่ตกลงกันไว้เท่าไหร่
ก็แหงล่ะ เล่นค้นแต่ข้อมูลดารานี่หว่า ใครเห็นก็ต้องว่าแปลกทั้งนั้นแหล่ะ!!!
ผลสรุปของเรื่องนี้ก็คือ ทางเราส่งคนของทีมซอฟต์แวร์และทีม network เข้าไปประกบผู้ต้องสงสัยทันที พร้อมทั้งเรียกตัวมาสอบสวน จากนั้นรายงานต่อผู้บังคับบัญชาของทั้งสองฝ่าย เพื่อป้องปรามไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
สิ่งที่ทำให้ผมทราบจากเรื่องนี้เรื่องนึง ซึ่งทำให้ผมรู้ว่าผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่รู้คอมพิวเตอร์ ยังมีความห่างชั้นในความรู้ทางคอมพิวเตอร์ก็คือ พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะโดนจับได้ เพราะคิดว่ามันไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ และพวกเขาก็ทำในที่ลับตา ไม่มีใครสังเกตเห็นได้เลยแม้แต่คนเดียว
เพียงแค่คุณออนไลน์ ตัวตนของคุณก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป
[tags]การละเมิด,ข้อมูลส่วนบุคคล,ประชาชน,ดารา,กรมการปกครอง,คอมพิวเตอร์,ซอฟต์แวร์[/tags]
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกออนไลน์แบบนี้ ดูแล้วเสี่ยงต่อปลอดภัย แต่ดีที่ผมไม่ใช่ดารา ผมว่า ประชาชนน่าจะกำหนดตัวเลือกได้ว่า ต้องการอยากที่จะเปิดเผยข้อมูลบัตรประชาชนส่วนไหนบ้าง เช่น นาย ก อนุญาติให้เปิดเผยชื่อ-นามสกุลจริง พร้อมรูปถ่าย แต่ไม่ขอเปิดเผย ที่อยู่ อะไรประมาณนี้ ถ้าออนไลน์ข้อมูลทุกอย่างแบบนี้ก็รู้สึกว่า ความเป็นส่วนตัวหมดไปเหมือนกัน
คล้ายๆ ตอนที่ผมทำงานที่บ. มือถือแห่งนึง
คือทีมที่ผมทำเป็นทีมที่คอยเขียนโปรแกรมแปลงข้อมูลการโทรศัพท์เพื่อส่งไปคิดเงินที่บิลลิ่ง
ซึ่งก็แน่นอนว่าคนในทีมสามารถ access ข้อมูลการโทรศัพท์ของลูกค้าได้หมด
ใครโทรไปหาใคร ตอนไหน นานเท่าไหร่ โทรจากบริเวณไหน (ไม่ลึกขนาด site ไหนนะ) ฯลฯ
ทำให้การเข้าถึงข้อมูลพวกนี้ ต้องมีการตรวจสอบโดยทีมอีกทีมนึง
ซึ่งจะคอย monitor ว่า เราเข้าไปค้นข้อมูลลูกค้าโดยพละการหรือเปล่า
ได้ account วันแรก พี่ในทีมบอกเลยว่า
อย่าเอาไปเช็คเบอร์กิ๊กนะ โดยไล่ออกไม่รู้ตัว 😀
อย่างนี้ทีมงานและเจ้าหน้าที่ก็ละเมิดข้อมูลส่วนตัวของคนที่ละเมิดอีกทีรึเปล่าครับ?
แล้วข้ิอมูลนี่มันละเอียดยิบเลยใช่ไหมครับ ?
– ipats เป็นผม ผมยอมโดนไล่ออก 555+
มีบล็อกเป็นของตัวเอง ก็ถือว่าเป็นดาราทางอินเตอร์เน็ตแล้วล่ะคุณ waipot อิ อิ
โอ้ เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะคุณ ipats ^-^ เสียดายนะที่เขาไม่ยอมให้เราเช็คได้ น่าจะผ่อนปรนกันบ้าง ก็กิ๊กเรานี่นา อิ อิ
ทีมงานสืบค้นไม่ได้หรอกครับ แค่เฝ้าดูเฉย ๆ ส่วนการสืบค้นเป็นธุระของ user ดังนั้นทีมงานก็เลยไปกำหนดไม่ได้ว่าอยากจะค้นอะไรนั่นเองครับคุณ ABZee
เป็นผมจะไม่ยอมโดนไล่ออกครับคุณ pete แต่ยอมให้เชิญออก ฮาาาาา ^-^
พี่ไท้ เอามาเล่าอย่างนี้ระวังความลับลั่วไหลนะ เคยมี CEO บริษัทใน อเมริกันแห่งหนึ่งเขียน blog แล้วพูดถึงข้อมูล inside แล้วโดนฟ้องร้อง
ระวังไว้ก็ดี
มีบล็อกเป็นของตัวเอง เป็นดารา 😀 อย่างน้อยก็มีคนมาชมงิงิ
อ่านแล้วรู้สึกว่าน่ากลัวนะครับ
คนบางอาชีพหากถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวไป…มันก็แย่เหมือนกัน
ไม่ทราบว่าเราจะมีวิธีป้องกันตัวเองจากพวกชอบขโมยข้อมูลอย่างไรบ้างครับ